สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 พ.ย. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นเวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น ที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนจากนักวิเคราะห์ของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนต.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,430.33 จุด เพิ่มขึ้น 72.09 จุด หรือ+0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,582.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.29 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,790.71 จุด เพิ่มขึ้น 7.92 จุด หรือ +0.12%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออก อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในเยอรมนี หลังจากพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล คว้าน้ำเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.7% ปิดที่ 386.39 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,058.66 จุด เพิ่มขึ้น 64.93 จุด หรือ +0.50% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,340.45 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด หรือ +0.40% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,389.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.78 จุด หรือ +0.12%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) โดยแรงบวกในตลาดถูกสกัดจากปัจจัยสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร ซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มส่งออกให้ปรับตัวลดลง

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 8.78 จุด หรือ +0.12% ปิดที่ 7,389.46 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในเยอรมนี หลังจากพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล คว้าน้ำเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่าย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 21.20 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ระดับ 1275.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบ 2 เดือน

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 53.1 เซนต์ หรือ 3.06% ปิดที่ 16.842 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 31 ดอลลาร์ หรือ 3.25% ปิดที่ 923.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.7% ปิดที่ 986.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 56.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 62.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) ด้วยแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจผลักดันแผนปฏิรูปภาษีได้สำเร็จภายในปีนี้ หลังนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาแสดงความคาดหวังว่า สภาคองเกรสจะผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเพื่อให้ปธน.ทรัมป์ลงนามรับรองก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1734 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1796 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3242 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3210 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7548 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7566 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.64 เยน จากระดับ 112.12 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9929 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9887 ฟรังก์สวิส

Back to top button