สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 พ.ย. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐหดตัวลงในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,526.18 จุด ลดลง 64.65 จุด หรือ -0.27% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,867.36 จุด เพิ่มขึ้น 4.88 จุด หรือ +0.07% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,597.08 จุด ลดลง 1.95 จุด หรือ -0.08%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปิดบวกในกรอบจำกัดจากแรงเทขายในหุ้นกลุ่มสร้างบ้าน หลังรัฐมนตรีคลังอังกฤษได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายตลาดที่อยู่อาศัยใหม่ของสหราชอาณาจักร

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 7.68 จุด หรือ +0.10% ปิดที่ 7,419.02 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน อย่าไงรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น  ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาโลหะในตลาดโลก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิด 387.06 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,352.76 จุด ลดลง 13.39 จุด หรือ -0.25% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,015.04 จุด ลดลง 152.50 จุด หรือ -1.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,419.02 จุด เพิ่มขึ้น 7.68 จุด หรือ +0.10%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับฐานลงของตลาดหุ้นสหรัฐ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 10.50 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ระดับ 1,292.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.2 เซนต์ หรือ 0.90% ปิดที่ 17.112 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 940.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 1,001.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าการคาดการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนนุจากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันจากแคนาดามายังสหรัฐ เนื่องจากเกิดการรั่วไหล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 58.02 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 63.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) จากแรงกดดันของข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม แม้กรรมการเฟดส่วนหนึ่งยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อก็ตาม

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1817 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1745 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3311 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3244 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7608 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7581 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.26 เยน จากระดับ 112.38 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9820 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9915 ฟรังก์สวิส

Back to top button