สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

ภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 พ.ย. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากมีรายงานว่า ชาวสหรัฐได้ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างคึกคักในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ส่งผลให้ราคาหุ้นเด่นๆ เช่นหุ้นอเมซอน ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,557.99 จุด เพิ่มขึ้น 31.81 จุด หรือ +0.14% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,889.16 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด หรือ +0.32% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,602.42 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด หรือ +0.21%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถาการณ์การเมืองในเยอรมนี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.13% ปิดที่ 386.63 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,409.64 จุด ลดลง 7.60 จุดหรือ -0.10% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่  5,390.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.92 จุด หรือ +0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,059.84 จุด เพิ่มขึ้น 51.29 จุด หรือ +0.39%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) โดยตลาดปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากราคาหุ้นค้าปลีกร่วงลง ประกอบกับนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 7.60 จุด หรือ  -0.10% ปิดที่ 7,409.64 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาทองคำในระหว่างวัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,287.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 16.992 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 945.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.25 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 993.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปกที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งจะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 58.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 63.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) จากการที่นักลงทุนลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีหน้า หลังจากรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.ระบุว่า กรรมการเฟดบางคนได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1924 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1817 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3324 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3311 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7615 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7608 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.56 เยน จากระดับ 111.26 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9798 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9820 ฟรังก์สวิส

Back to top button