สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 พ.ย. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากมีรายงานว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ในวันแบล็กฟรายเดย์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่วุฒิสภาจะลงมติต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,580.78 จุด เพิ่มขึ้น 22.79 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,601.42 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,878.52 จุด ลดลง 10.64 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลง ก่อนที่การประชุมกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 384.87 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,000.20 จุด ลดลง 59.64 จุด หรือ -0.46% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,360.09 จุด ลดลง 30.37 จุด หรือ -0.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,383.90 จุด ลดลง 25.74 จุด หรือ -0.35%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยดัชนี FTSE 100 ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจของบริษัทจีน โดยจีนเป็นผู้ซื้อโลหะรายใหญ่ เช่น แร่เหล็ก ทองแดง และทองคำ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,383.90 จุด ลดลง 25.74 จุด หรือ -0.35%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากมีข้อมูลระบุว่า สหรัฐทำการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปกที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 84 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 58.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ขยับลง 2 เซนต์ ปิดที่ 63.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งมีกำหนดลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันพฤหัสบดีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.1 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ระดับ 1294.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.8 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 17.02 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 950.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 1,001.05 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดเงินนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 10 ปีในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1899 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1924 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3317 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3324 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7607 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7615 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.02 เยน จากระดับ 111.56 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9813 ฟรังก์ จากระดับ 0.9798 ฟรังก์