“โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” เผยกำไร Q1/58 ทะลัก! เติบโตกว่า 444%

"โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่" หรือ GPSC ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกรายได้รวม 6,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.04% จาก 4,978 ล้านบาท สำหรับไตรมาสแรกปี 2557 ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตจาก 98 ล้านบาท เป็น 531 ล้านบาทเติบโตมากถึง 444.6%


บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ระบุว่า บริษัทได้ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกรายได้รวม 6,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.04% จาก 4,978 ล้านบาท สำหรับไตรมาสแรกปี 2557 ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตจาก 98 ล้านบาท เป็น 531 ล้านบาทเติบโตมากถึง 444.6% GPSC มีรายได้รวมสำหรับไตรมาสแรกปี 2558 เท่ากับ 6,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.04% จาก 4,978 ล้านบาท สำหรับไตรมาสปี 2557

ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของรายได้มาจากการขายไฟฟ้าที่มากขึ้นเนื่องจากในไตรมาสแรกปี 2557 โรงไฟฟ้าศรีราชามีการหยุดซ่อมบำรุงตามรอบระยะเวลาทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าลดลง ในขณะที่ไตรมาสแรกของปี 2558 โรงไฟฟ้าศรีราชามีการดำเนินการเต็มกำลังการผลิต ทำให้สามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้ารับรู้รายได้อย่างเต็มที่ การที่โรงไฟฟ้าศรีราชา GPSC สามารถผลิตและขายไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิต ทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และยังทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นด้วย โดยกำไรขั้นต้น เพิ่มจาก 210 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2557 เป็น 673 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2558 และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 10.48% จาก 4.28%

นอกจากนี้ GPSC ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น โดยสำหรับไตรมาสแรกปี 2557 และสำหรับไตรมาสแรกปี 2558 มีกำไรดังกล่าวจำนวน 44 ล้านบาท และ 84 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 89.22 เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ร่วมลงทุน ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ครบทุกโรงในไตรมาสแรกปี 2558 ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตจาก 96 ล้านบาทในไตรมาสแรกปี 2557 เป็น 531 ล้านบาท ในไตรมาสแรกปี 2558 เติบโตมากถึง 444.6%

ทั้งนี้ นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด มหาชน หรือ GPSC เชื่อว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทเป็นผลมาจากกลยุทธ์ในการเติบโตทางธุรกิจที่บริษัทได้กำหนดไว้ ประกอบกับพนักงานและผู้บริหารของ GPSC ที่มีความเป็นมืออาชีพ ได้ร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาบริษัทและองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าผลการดำเนินงานดังกล่าวจะเป็นผลดีกับผู้ถือหุ้นและช่วยให้นักลงทุนมั่นใจในการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต

Back to top button