DCORP แจงถูกชักดาบเงินจัดแข่งกอล์ฟแม้มี “การันตีรายได้” จับตา! ดีลปัจจุบันส่อเค้ามีปัญหา?

DCORP แจงถูกชักดาบเงินจัดแข่งกอล์ฟแม้มี "การันตีรายได้" จับตา! ดีลปัจจุบันส่อเค้ามีปัญหา?


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP ได้ยื่นฟ้อง บริษัท มิวส์กรุ๊ป บางกอก จำกัด (มิวส์) เพื่อเรียกเงินตามเงื่อนไขในสัญญาว่าจ้างดำเนินโครงการกอล์ฟ ยูโรเปี้ยน ไทยแลนด์ คลาสสิก ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นเลขคดีดำที่ พ.1470/2559 โดยเนื้อหาตามฟ้องเป็นกรณีที่บริษัทได้ตกลงว่าจ้างให้มิวส์เป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการดังกล่าว ซึ่งบริษัทเป็นผู้ลงทุนจำนวน 86.43 ล้านบาท

โดยรายได้ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าว มิวส์ตกลงจะจัดสรรชำระคืนให้แก่บริษัทเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าเงินที่ลงทุนคือไม่น้อยกว่า 86.43 ล้านบาท สำหรับเงินรายได้ซึ่งเป็นกำไรในส่วนที่เกินจากเงินลงทุนดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะแบ่งปันกันตามสัดส่วน โดยรายการกอล์ฟ ยูโรเปี้ยน ไทยแลนด์ คลาสิกได้แข่งขันเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558

ทั้งนี้ภายหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน บริษัทได้ติดตาทวงถามมิวส์เพื่อให้มีการดำเนินการตามเงื่อนไขในสัญญาและให้คืนเงินตามที่ตำลงมาโดยตลอด แต่มิวส์ได้มีการบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุขัดข้องเรื่อยมา อย่างไรก็ดี บริษัทติดตามเงินได้เพียงบางส่วนจำนวน 31 ล้านบาท

โดยคดีนี้ศาลได้สืบพยานโจทก์และพยานจำเลยเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกันยายน 2560 และนัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 60 โดยศาลมีคำพิพากษาให้มิวส์หักค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระเป็นเงิน 29.18 ล้านบาท และยอดเงินอีกส่วนหนึ่งที่มิวส์ได้ชำระคืนบริษัทแล้ว จากยอดที่ได้รับเงินสนับสนุนที่เกิดขึ้นจริงรวม 70.72 ล้านบาท

ดังนั้น ให้มิวส์ชำระเงินให้แก่บริษัทอีกจำนวน 19.25 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5ต่อปี นับถัดจากวันที่ 15 มิถุนายน 58 จนกว่าจะชำระเสร็จ ซึ่ง ณ วันอ่านคำพิพากษา มีภาระหนี้ตามคำพิพากษารวมกันทั้งสิ้นประมาณ 21.61 ล้านบาท โดยคดีนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอความเห็นจากที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อพิจารณาว่าจะอุทธรณ์ต่อไปหรือไม่

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่าก่อนหน้านี้ DCORP ได้เข้าร่วมลงทุนในสัดส่วน 35% กับ Triple CH Holdings Company Limited (Triple CH) คิดเป็นวงเงินการร่วมลงทุนรวม 30 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจการถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลในประเทศฟิลิปปินส์ แบ่งปันผลประโยชน์จากการถ่ายทอดรายการแข่งขันฟุตบอลตามสัดส่วนการร่วมลงทุน ซึ่งบริษัทจะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจากการร่วมลงทุนในอัตตราส่วนร้อยละ 35

โดยพบข้อมูลว่าการเข้าร่วมทุนกับ “Triple CH” มีข้อตกลงการรับประกันการดำเนินงานในช่วงระยะเวลา 18 เดือน นับจากวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ว่าผลประโยชน์รายได้ที่บริษัทจะได้รับต้องไม่ต่ำกว่าเงินร่วมลงทุนที่บริษัทได้รับการสนับสนุนแก่ธุรกิจการถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอล เช่นเดียวกับสัญญาที่เคยตกลงกับทาง บริษัท มิวส์กรุ๊ป บางกอก จำกัด (มิวส์) เอาไว้เมื่อปี 2558

อย่างไรก็ตาม บริษัท มิวส์กรุ๊ป บางกอก จำกัด (มิวส์) กลับไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนคืนให้แก่บริษัทตามเงื่อนไขในสัญญา เป็นผลให้บริษัทต้องฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินคืนตามสัญญากว่า 86.43 ล้านบาท

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นที่น่าจับตาว่าภายหลังจากการเข้าร่วมลงทุนกับ “Triple CH” ในครั้งนี้ บริษัทจะได้รับรายได้ตามที่มีการตกลงเอาไว้ในสัญญาหรือไม่ หรืออาจจะมีความเสี่ยงที่จะถูกบริษัทร่วมทุนไม่ปฏิบัติตามสัญญาจนต้องมีการฟ้องร้องอีกครั้ง

 

Back to top button