ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย – บล.เอเซีย พลัส
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
Volume ยังคงน้อยบวกกับความเสี่ยงที่จะถูกแรงขายกดดันในช่วงท้ายสัปดาห์น่าจะทำให้ SET Index ไม่ไปไหนไกลและมีโอกาสที่จะลงต่อได้ กลยุทธ์ระยะสั้นยังคงชื่นชอบเล่นกับหุ้นส่งออกอิงกับเทรนเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ ชอบ HANA, KCE, SVI, VNG และ TUF
มุมมองและการวิเคราะห์
– ตลาดหุ้นเอเซียช่วงเช้าส่วนใหญ่ยังคงยืนในแดนบวกลบ นำโดยประเทศจีน ดัชนี SSE Composite ติดลบมากที่สุดที่ 1.66% ตามมาด้วยตลาดหุ้นอินนิเซีย -0.54% ตลาดหุ้นเกาหลี -0.54% ตลาดหุ้นไต้หวัน -0.30% ส่วนประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น มีเพียงดัชนี PSE Composite ของฟิลิปปินส์ฟื้นตัวเพิ่มมากที่สุดเท่ากับ 0.71% ตามมาด้วยตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.67% ตลาดหุ้นฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.47% และตลาดหุ้นอินเดียเพิ่มขึ้น 0.15% สำหรับ SET lndex ล่าสุดปิดที่ 1,496.52 จุด ติดลบเล็กน้อยที่ 0.06%
– วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่บริษัทจดทะเบียนใน ตลท. ต้องทำส่งงบการเงินงวด 1Q58 โดยกำไรสุทธิรวมของตลาดน่าจะเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาดหมายคือมากกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งจากการเก็บข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกาศงบ 1Q58 ที่ออกมาก่อนหน้า 306 แห่ง คิดเป็น 77% ของ Market Cap มีกำไรสุทธิ 1.99 แสนล้านบาท โดยราว 1.5 แสนล้านบาทจะมาจาก 4 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ พลังงาน สื่อสาร และ วัสดุก่อสร้าง ส่วนที่เหลือมาจากอุตสาหกรรมอื่นๆ
อย่างไรก็ตามในงวด 1Q58 มีการบันทึกรายการพิเศษที่เป็นบวก ซึ่งมีลักษณะเป็น One Time Gain เข้ามาในหลายบริษัทเช่น JAS, TRUE, SCC อีกทั้งยังมี FX Gain เข้ามาในอีกหลายบริษัท นอกจากนั้นหลายๆบริษัทก็มีผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ด้วยองค์ประกอบดังกล่าว ทำให้ฝ่ายวิจัยมีโอกาสที่จะทบทวนประมาณการ โดยมีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นการปรับลดประมาณการกำไรตลาดปี 2558 ลง ซึ่งการปรับลดดังกล่าวไม่น่าจะแค่ฝ่ายวิจัย ASPS แต่บรรดาสำนักวิจัยอื่นๆ ก็น่าจะมีการปรับลดลงตามมาเช่นกัน หากเป็นไปตามที่คาดแรงกดดันจากเป้าหมาย SET lndex ของ Consensus ที่ลดลง น่าจะเป็นตัวจำกัดการฟื้นตัวของดัชนีในรอบนี้ และอาจดึงให้ดัชนีต้องปรับลงอีกครั้งได้
– คาด SET lndex ยังถูกกดันจากประเด็นเศรษฐกิจในประเทศที่ออกมาไม่สดใส ที่ต้องจับตาดูคือในวันที่ 18 พ.ค. นี้ สภาพัฒน์ฯ จะแถลงตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทย งวด 1Q58 โดยคาดว่าอาจออกมาต่ำกว่าที่สำนักเศรษฐศาสตร์ต่างออกมาประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับทาง ASPS ที่ได้ปรับลดประมาณการ GDP growth ของไทยในปีนี้จาก 3.5% เป็น 2.5 % และสำหรับ 1Q58 อาจจะหดตัวได้ถึง 2% qoq และโตได้เพียง 1.6% yoy ขณะที่สถานการณ์ต่างประเทศนั้น ให้ความสนใจในวันที่ 20 พ.ค. เนื่องจาก Fed จะออก Minutes การประชุมเมื่อวันที่ 28-29 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะมีมุมมองและสัญญาณชี้นำที่อาจส่งผลต่อการตัดสินในของ Fed ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไร และเท่าไร หลังจาก GDP Growth งวด 1Q58 ทรงตัวจากงวดก่อนหน้า และอัตราเงินเฟ้อ ตัวเลขการจ้างงานยังห่างจากเป้าหมายของ Fed จึงทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่า Fed น่าจะยืดเวลาขึ้นดอกเบี้ยฯ ออกไป โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะปรับข้นเป็นครั้งแรกในช่วง ปลายปี 2558 หรือ ต้นปี 2559
– SET lndex ช่วงเช้ายังคงทรงตัวในกรอบแคบที่ 1495-1502 จุด แต่ด้วย Voume ที่ค่อนข้างน้อยที่ 1.5 หมื่นล้านบาท แถมยังมีความเสี่ยงที่จะถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนบางส่วนที่ไม่ต้องการถือสถานะข้ามสัปดาห์ ทำให้ช่วงบ่ายนี้ SET lndex มีโอกาสย่อตัวลงมาโดยมีแนวรับที่ 1,485 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic : ยังคงอิงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า เลือก HANA, SVl, KCE, VNG และ TUF
– หุ้นเด่นเดือน พ.ค.58 AAV BEAUTY BJCHl lCHl SYNTEC THCOM และ WORK
– หุ้นปันผลเด่นที่จะเป็นทางเลือกยามดอกเบี้ยขาลง ASK BTS lNTUCH
– หุ้นผลประกอบการฟื้นตัว มองพลังงานที่ยัง Laggards PTTEP, PTTGC
– หุ้น PE ต่ำ และมี Story เด่น STPl, BJCHl
– Portfolio Update : ASK, SVl, SYNTEC, BJCHl, PTTEP