Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย

เคาะกลยุทธ์ลงทุนบ่าย

สรุปภาวะตลาดเช้า

– SET Index ในช่วงเช้าปรับขึ้นทดสอบ 1,500 จุด แต่ไม่ผ่านก่อนปรับถอยลงมาปิดที่ระดับ 1,496.52จุด -0.88จุด (-0.06%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 15,043.03 ลบ.

– Most Positive Impact: CPALL (+0.63จุด)/TRUE(+0.5 จุด)/ PTT (+0.24จุด)

– Most Negative Impact: ADVANC (-1.53จุด)/ MINT (-1.08 จุด)/ BEC (-0.85จุด)

จุดสังเกต: ตลาดภาคเช้าเคลื่อนไหวสลับบวกลบ โดยกลุ่มที่มีการซื้อขายสูงที่สุดคือICTซึ่งมีแรงซื้อเข้ามาที่ TRUE เนื่องจากรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส1/58 ดีกว่าที่ตลาดคาดขณะที่ ADVANC เผชิญแรงขายจากความกังวลประเด็นการถูกแย่ง Market share

 

แนวโน้มตลาดบ่าย

– บ่ายนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,485-1,505 จุด – ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกทั้งจากภายในและภายนอก ทำให้การปรับตัวขึ้นยังคงจำกัด และไม่น่าเกิน 1,500 จุด ไปได้มากนักขณะที่นักลงทุนมีโอกาสชะลอการลงทุนเพื่อรอดูตัวเลข GDP ไตรมาส 1/58 ของไทย ที่น่าจะออกมาอ่อนแอ และจากทิศทางของเงินบาทที่ยังมีโอกาสอ่อนต่อเนื่อง(แนวต้าน: 1,500 และ 1,510 // แนวรับ:1,480 และ 1,470)

– หุ้นแนะนำภาคบ่าย: เก็งกำไร JSP (น่าสนใจจากกำไรไตรมาส 1/58 ที่ออกมาดีตามคาด และกำไรน่าจะเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดในช่วงที่เหลือของปี จากการรับรู้รายได้โครงการขนาดใหญ่โดยเฉพาะสำเพ็ง 2, เป้าทางกลยุทธ์ 2.00-2.10 ตัดขาดทุน 1.83 บาท) // ทยอยสะสม JASIF (ราคาที่ลดลงต่ำกว่า IPO ทำให้ผลตอบแทนปันผลปรับขึ้นจาก 8.5-9.0% ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนปันผลราว 6.5-7.0% หากราคาขึ้นจน yield ปรับขึ้นไปใกล้กัน จะ imply upside ของ JASIF ที่ราว 12 บาท)

 

คำแนะนำ

– กลยุทธ์: “คาดการฟื้นตัวของตลาดรอบนี้จำกัดที่ 1,495-1,515 จุด” ความเสี่ยงของการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจลง ผลประกอบการไตรมาส 1/58 ที่อ่อนแอ รวมถึงความผันผวนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงจำกัดการฟื้นตัวของตลาด และยังคงมุมมองระวังความผันผวนของตลาดในช่วง พ.ค.-มิ.ย.นักลงทุนระยะยาว แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานรายตัวเมื่อปรับถอย โดยเฉพาะการหลุดต่ำ 1,500 จุด (Top pick: SCC CK CPALL TOP PS ADVANC CENTEL KCE PTT KTB)

 

Trading Idea

– Opportunity Day:(18 พ.ค.) CBG WHA ILINK FORTH AI PLAT  // (19 พ.ค.) HEMRAJ MALEE TRT PYLON BAFS SMT MC // (20 พ.ค.) CENTEL ERW KTC ASP BJCHI PCSGH

– หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย: 1) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน (KCE SVI) 2) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น (CPALL MAKRO) 3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนการเงินที่ลดลง ได้แก่ Consumer finance (KTC AEONTS) กลุ่มธนาคารขนาดกลาง (TISCO TCAP KKP)กลุ่มเช่าซื้อ (THANI GL TK IFS LIT GCAP) และกลุ่มอสังหาฯ (AP PS) 4) กลุ่ม High Yield (ADVANC INTUCH)

 

ประเด็นจับตา/ติดตาม

– (+/-) ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย – นักลงทุนต่างชาติชะลอการขายและกลับมาเปิด Long สัญญา SET50 Index Futures ท่ามกลางค่าเงินบาทที่ปรับแข็งค่า อาจช่วยลดแรงกดดันต่อทิศทางการปรับถอยของตลาด