สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ธ.ค. 60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนส่งแรงขายเข้ากดดันหุ้นกลุ่มต่างๆ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ อาทิ ดัชนี PMI ภาคบริการที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในสหรัฐยังคงส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,180.64 จุด ร่วงลง 109.41 จุด หรือ -0.45% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,629.57 จุด ลดลง 9.87 จุด หรือ -0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,762.21 จุด ลดลง 13.15 จุด หรือ -0.19%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มเหมืองแร่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป (EU)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 386.74 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,375.53 จุด ลดลง 13.76 จุด หรือ -0.26% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,327.50 จุด ลดลง 11.47 จุด หรือ -0.16% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,048.54 จุด ลดลง 10.01 จุด หรือ -0.08%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และแรงกดดันจากข้อมูลภาคบริการที่อ่อนแอของอังกฤษ
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.47 จุด หรือ -0.16% ปิดที่ 7,327.50 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว และจากการที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันบรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจนถึงปลายปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 62.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 12.80 ดอลลาร์ หรือ 1.00% ปิดที่ระดับ 1,264.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 30.5 เซนต์ หรือ 1.86% ปิดที่ 16.068 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 8.5 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ 917.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 14.60 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 977.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์ แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) ขณะนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในสภาคองเกรสของสหรัฐ หลังวุฒิสภาได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายฉบับของวุฒิสมาชิกรีพับลิกันด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด 51-49 คะแนนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1815 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1856 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3437 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3474 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7608 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7597 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.59 เยน จากระดับ 112.65 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9883 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9855 ฟรังก์สวิส