ดาวโจนส์ปิดวันศุกร์ปรับขึ้น ข้อมูลศก.แย่สกัดคาดการณ์เฟดขึ้นดบ.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาย่ำแย่กว่าที่คาดได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 20.32 จุด หรือ 0.11% ปิดวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) ที่ 18,272.56 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 1.63 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 2,122.73 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.50 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 5,048.29 จุด

ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของภาคเหมืองแร่และสาธารณูปโภค ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนเม.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 78.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ในปีที่แล้ว จาก 78.6% ในเดือนม.ค.

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นของเดือนพ.ค.ลดลงมากกว่าคาด สู่ระดับ 88.6 จากตัวเลขขั้นสุดท้ายที่ 95.9 ในเดือนเม.ย. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 96.0 ในเดือนพ.ค. ด้านเฟดสาขานิวยอร์กรายงานวันนี้ว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ประจำเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.09 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.0 ในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งแตะ 6.9 ในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนประเมินว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่มีความชัดเจนได้สร้างความกังขาเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ประเมินกันว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่หุ้น Netflix พุ่ง 4.50% จากข่าวที่ว่าบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทด้านสื่อของจีนรายหนึ่งเพื่อจะเข้าสู่ตลาดวิดีโอออนไลน์ของจีน

Back to top button