จับตา GULF กำไรโตกระฉูด! ปี 61-62 ขายไฟเพิ่มอีกกว่า 1 พันเมกะวัตต์
จับตา GULF กำไรโตกระฉูด! ปี 61-62 ขายไฟเพิ่มอีกกว่า 1 พันเมกะวัตต์
นายรัฐพล ชื่นสมจิตต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2567 จะมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบอยู่ที่ 11,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีขนาดกำลังการผลิตแล้วจำนวน 4,700 เมกะวัตต์
โดยกำลังการผลิตที่จะเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 6,000 เมกกะวัตต์ จะมาจากโรงไฟฟ้า 2 ส่วน ประกอบด้วย โครงการ SPP ก๊าซธรรมชาติ (Cogen) ที่อยู่ภายใต้บริษัท Gulf MP Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่บริษัทได้ร่วมทุนกับทางญี่ปุ่น และกำลังจะเปิดดำเนินการในปี 2561 อีกจำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวมประมาณ 510 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ในปี 2562 จะมีโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 4 โครงการ กำลังการผลิตรวมประมาณ 510 เมกะวัตต์ ทำให้ในปี 2561-2562 บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,020 เมกะวัตต์
ทั้งนี้หากรวมโรงไฟฟ้าทั้ง 8 โครงการ จะคิดเป็นสัดส่วนของทาง GULF ถืออยู่ประมาณ 700-800 เมกะวัตต์ และคาดว่าภายในปี 2562 จะมีกำลังการผลิตประมาณ 2,600 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกัน ในปี 2563 บริษัทคาดจะมีการเติบโตอย่างโดดเด่นในด้านของรายได้ เนื่องจากมีการบันทึกรายได้ของทุกโรงไฟฟ้าเต็มปี โดยคาดว่าโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิตประมาณ 120 เมกะวัตต์ จะสามารถทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,500-2700 ล้านบาท/ปี และคาดว่าในปี 2564 บริษัทจะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าจำนวน 12 โครงการ ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท
“ในปีนี้ บริษัทดำเนินการโรงไฟฟ้า 4 โครงการก็จริง แต่ทยอยเปิดไตรมาสละ 1 โครงการ ทำให้แทบจะไม่เห็นรายได้ของทั้ง 4 โครงการอย่างเต็มกำลังการผลิตเต็มปี เพราะอย่างโครงการสุดท้ายเพิ่งเปิดทำการในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้งบฯไตรมาส 3 ยังไม่รับรู้รายได้ในส่วนของโรงไฟฟ้าที่ 4 ดังนั้นรายได้ที่เข้ามาทั้งหมดจึงถือว่ายังไม่ใช่รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าอย่างแท้จริง” นายรัฐพล กล่าว
นอกจากนี้ ด้านกำลังการผลิตที่ส่วนที่เหลือจะมาจากในส่วนของโครงการ IPP ที่กำลังการผลิตรวมประมาณ 5,000 เมกะวัตต์ โดยจะทยอยเปิดดำเนินการปีละ 1,250 เมกะวัตต์ รวม 4 ปี (ตั้งแต่ 2564-2567) จึงทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้ (2560) จนถึงปี 2567
นายรัฐพล กล่าวอีกว่า ในส่วนประเด็นกรณีข้อพิพาทระหว่าง GULF กับกระทรวงพลังงาน ทางศาลปกครองกลางขั้นต้นได้ตัดสินแล้วว่าทางบริษัทชนะคดี นอกจากนี้บริษัทยังได้รับใบอนุญาตครบถ้วนสำหรับโรงไฟฟ้า 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ และได้รับอนุมัติรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) และใบอนุญาตสำคัญๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ในช่วงจัดหาเงินกู้ และเตรียมพื้นที่สำหรับการก่อสร้าง โดยที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทำให้มีความสะดวกในการเตรียมงาน และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอย่างจริงจังในช่วงกลางปี 2561 หรือต้นไตรมาส 3/61 พร้อมยืนยันว่ากระบวนการการทำงานดังกล่าวยังคงดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ และไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้
สำหรับเงินระดมทุนจากการขาย IPO บริษัทจะแบ่งสัดส่วนไปชำระหนี้เงินกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) จาก 4.5 เท่า ณ สิ้นเดือน ก.ย. 60 ให้ลดลงมาเหลือ 2 เท่า และคาดว่าจะลดลงเรื่อยๆ จากรายได้ที่ทยอยเข้ามา ซึ่งจะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการเพิ่มทุนหรือกู้เงินเพิ่มในการนำไปลงทุนโครงการใหม่ๆ ในอนาคต