สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ธ.ค. 60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (15 ธ.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างก็ปิดทำนิวไฮ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองที่เป็นบวกว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ได้สำเร็จ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,651.74 จุด เพิ่มขึ้น 143.08 จุด หรือ +0.58%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,675.81 จุด เพิ่มขึ้น 23.80 จุด หรือ +0.90% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,936.58 จุด เพิ่มขึ้น 80.06 จุด หรือ +1.17%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันนศุกร์ (15 ธ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกร่วงลง นำโดยหุ้น H&M หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 388.19 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,349.30 จุด ลดลง 7.84 จุด หรือ -0.15% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,103.56 จุด เพิ่มขึ้น 35.48 จุด หรือ +0.27% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,490.57 จุด เพิ่มขึ้น 42.45 จุด หรือ +0.57%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (15 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ให้ความเห็นชอบต่อการเริ่มต้นการเจรจาระยะที่ 2 ว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,490.57 จุด เพิ่มขึ้น 42.45 จุด หรือ +0.57%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (15 ธ.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นทำนิวไฮ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1257.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12.9 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 16.063 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 8.2 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ 889.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 13.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,015.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (15 ธ.ค.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันในทะเลเหนือของอังกฤษ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 57.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 63.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (15 ธ.ค.) จากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองที่เป็นบวกว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ได้สำเร็จ

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.62 เยน จากระดับ 112.12 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9907 ฟรังก์ จากระดับ 0.9871 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1759 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1799 ดอลลาร์ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3325 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3441 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7648 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7676 ดอลลาร์

Back to top button