เจ้าหนี้-ผถห. IFEC ยื่นขอศาลรับฟ้องอาญาก.ล.ต.ฐาน “ละเว้น” จับตา 16 ม.ค.นี้รู้เรื่อง!
เจ้าหนี้-ผถห. IFEC ยื่นขอศาลรับฟ้องอาญาก.ล.ต.ฐาน "ละเว้น" จับตา 16 ม.ค.นี้รู้เรื่อง!
นายสุรกิต ทองดี ทนายความตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.60 ผู้ถือหุ้นกู้และนักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในหุ้น IFEC ได้ยื่นฟ้องอาญา มาตรา 157 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ข้อหาหรือฐานความผิดเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
หลังจากก.ล.ต.ไม่ยอมจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นกับ IFEC อย่างเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด ทั้งที่กระทรวงพาณิชย์ออกมายืนยันว่าการใช้วิธีการลงคะแนนแบบสะสม (Cumulative voting) ในการเลือกกรรมการของ IFEC ในวันที่ 2 พ.ค.60 และในวันที่ 14 ก.พ.60 ผิดข้อบังคับของบริษัทและผิดพ.ร.บ.มหาชน ปล่อยให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย และผู้ถือหุ้นกู้ ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง มาเป็นเวลานานนับปี โดยศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องเป็นคดีหรือไม่ในวันที่ 16 ม.ค.61
“ที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงสำนักงาน ก.ล.ต. มาตั้งแต่เดือนธ.ค.59-ธ.ค.60 เพื่อร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นกับIFEC ไล่เรียงตั้งแต่การผิดชำระหนี้ตั๋วบี/อี หุ้นกู้ จนทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งห้ามการซื้อขายหุ้นชั่วคราว (ขึ้นเครื่องหมาย SP) เมื่อวันที่ 12 ม.ค.60 จนถึงปัจจุบัน ขณะที่บริษัทมีรายได้จากการประกอบกิจการทุกเดือน และได้รับเงินจากการแปลงวอร์แรนต์ (IFEC-W1) แต่ไม่สามารถคืนหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ได้ และมีการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้วงเงิน 3 พันล้านบาท” ทนายความตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC กล่าว
ขณะเดียวกันกรรรมการของ IFEC ที่เหลืออยู่ ซึ่งมีจำนวนไม่ครบองค์ประชุม แต่ได้มีการทำธุรกรรมนำหุ้นของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ แคป แมนเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของIFEC ถือหุ้น 51% ในโรงแรมดาราเทวี คิดเป็นเงินมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ไปจำนำค้ำประกันการชำระหนี้ตั๋วบีอี ที่มีจำนวนเพียง 100 ล้านบาท ในวันที่ 19 ธ.ค.59 ทั้งที่คณะกรรมการบริษัทฯ ไม่มีอำนาจกระทำการได้ และปล่อยให้ตั๋วบี/อี ผิดนัดชำระหนี้
อีกทั้งยังได้ทำธุรกรรมกู้ยืมเงินจากบริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เป็นเงิน 50 ล้านบาท พร้อมกับนำหุ้นบริษัท IFEC ที่ถืออยู่ในบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด ไปค้ำประกันการกู้ยืมเงิน ซึ่งคณะกรรมการไม่เคยรายงาน หรือขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด ซึ่งหากถูกบังคับจำนำ ย่อมทำให้IFEC ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
นอกจากการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีกรณีการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ (โรงไฟฟ้าที่กัมพูชา) ปรากฏหลักฐานว่า เป็นการลงทุนในมูลค่าที่เกินกว่าความเป็นจริง และไม่ปรากฏว่าบริษัทมีรายได้จากการนำเงินไปลงทุนดังกล่าว
รวมถึงเกิดกรณีปัญหาการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ส่อไปทางทุจริตในบริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของIFEC มีกรณีการกล่าวอ้างว่าหนี้ของบริษัทโรงแรมดาราเทวี จำกัด จำนวนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนหนี้ที่มีนัยสำคัญของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นหนี้ปลอม
“ทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้นกับ IFEC รายย่อยเห็นว่า ก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุน ควรทำหน้าที่ของตัวเอง ในการสั่งการให้นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ได้รับการแต่งตั้งจากกรรมการที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย และไม่ผ่านการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น) คืนอำนาจให้กับผู้ถือหุ้น
โดยการจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เลือกกรรมการชุดใหม่ให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาสถานะทางการเงินของIFEC คืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้หุ้นกู้ ตั๋วบี/อี เร่งตรวจสอบการทุจริตที่เกิดขึ้นในIFEC และทำให้หุ้นของ IFEC กลับเข้ามาซื้อขายได้อีกครั้ง หลังจากโดนแช่แข็งมานานกว่า 1 ปี” ทนายความตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยIFECกล่าว