ASN พุ่งกระฉูดกว่า 18% ทุบสถิติในรอบ 2 เดือน ตั้งเป้าปี 61 รายได้โตแกร่ง
ASN พุ่งกระฉูดกว่า 18% ทุบสถิติในรอบ 2 เดือน ตั้งเป้าปี 61 รายได้โตแกร่ง โดยปิดตลาดภาคเช้า ราคาอยู่ที่ระดับ 4.62 บาท บวก 0.72 บาท หรือ 18.46% สูงสุดที่ 4.90 บาท ต่ำสุดที่ 3.90 บาท มูลค่าการซื้อขายที่ 13.59 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASN ปิดตลาดภาคเช้า ราคาอยู่ที่ระดับ 4.62 บาท บวก 0.72 บาท หรือ 18.46% สูงสุดที่ 4.90 บาท ต่ำสุดที่ 3.90 บาท มูลค่าการซื้อขายที่ 13.59 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น ASN ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.44 บาท เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.60 ขณะเดียวกันการปรับตัวขึ้นในวันนี้เป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.64 บาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค.60
ด้าน นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ ASN เปิดเผยว่าในปีนี้เบี้ยรับรวมของบริษัทน่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่ได้ 164.46 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเลิกสัญญากับพาร์ตเนอร์รายหลักในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ติดลบ โดยครึ่งปีแรกติดลบประมาณ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายประกันชีวิตก็ติดลบเช่นกัน โดยครึ่งปีแรกติดลบประมาณ 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิปีนี้น่าจะติดลบอยู่ที่ 40.76% และ 16.93% ตามลำดับ โดยได้รับผลกระทบจากการเลิกสัญญากับพาร์ตเนอร์รายหลักเช่นกัน ซึ่งน่าจะเห็นผลชัดเจนอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในเรื่องของพนักงานขายที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับยอดขายที่ลดลง แต่พยายามควบคุมต้นทุนและแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
กลยุทธ์การขายประกันภัยรถยนต์ต่อจากนี้ จะหันมาเน้นการดำเนินงานผ่านโครงการใหม่ หรือขายประกันด้วยฐานข้อมูลของบริษัทเอง ซึ่งคาดว่ายอดขายน่าจะทยอยปรับตัวขึ้นมาได้ ส่วนการขายประกันชีวิต จะเพิ่มศักยภาพพนักงานที่มีอยู่ให้มากขึ้น
“เชื่อว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งบริษัทได้ทราบแล้วว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะแก้ไขได้อย่างไร และคาดว่าจะดำเนินการแก้ไขได้ไม่เกินปีนี้อย่างแน่นอน” นายธวัชชัย กล่าว
อย่างไรก็ดีตั้งเป้าเบี้ยรับรวมในปี 61 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยปีหน้าหมดปัญหาที่พบในปีนี้คือการยกเลิกสัญญากับพาร์ตเนอร์รายหลักในช่วงเดือน มิ.ย. 60 อีกทั้งยังเร่งเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น เพื่อชดเชยรายรับที่ขาดไป
“บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพนักงานขายประกันภัยรถยนต์ให้กับลูกค้าใหม่ในปี 61 เป็นจำนวน 100 คน จากปีนี้มีจำนวน 60 คน ส่วนประกันชีวิตยังคงจำนวนพนักงานเดิมที่ 10 คน โดยปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนของเบี้ยรับรวมจากประกันภัยรถยนต์ 75-80% และส่วนที่เหลือเป็นประกันชีวิต” นายธวัชชัย กล่าว
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่าในส่วนธุรกิจการขายประกันออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม OOHOO (อู้หู) ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ 3 ประเภท ได้แก่ ประกันรถยนต์, ประกันเดินทาง และประกันรถจักรยานยนต์ ซึ่งที่ผ่านมายังมียอดขายไม่มากนัก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ที่สนใจซื้อประกันผ่านออนไลน์ยังมีไม่มาก ขณะเดียวกัน มองว่าช่องทางการขายผ่านออนไลน์ถือเป็นช่องทางที่ท้าทาย
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนและอนุมัติเงินลงทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท ได้เงิน ดอทคอม จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการจับคู่ผู้ให้กู้เงินและผู้กู้ยืมเงิน ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนถือหุ้นอยู่ 99.99% สำหรับจำนวนการเพิ่มทุนครั้งนี้ คิดเป็นจำนวน 12 ล้านบาทถ้วน แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 8 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 800,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยทุนจดทะเบียนใหม่หลังเพิ่มทุนจะเป็น 20 ล้านบาทถ้วน แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของบริษัท ได้เงิน ดอทคอม จำกัด
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากประกันภัยรถยนต์ 80% และประกันชีวิต 20%