VCOM พร้อมเทรด 21 ธ.ค.นี้ ชูจุดแข็งตัวแทนขายสินค้า IT แบรนด์ดังระดับโลก
IPO น้องใหม่ VCOM ชูจุดแข็งตัวแทนขายสินค้า IT แบรนด์ดังระดับโลก เน้นให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมลุยเทรดในวันพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ VCOM เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก (21 ธ.ค. 60) โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 2.88 บาท
แบ่งเป็นสัดส่วนการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 68 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 12 ล้านหุ้น ส่งผลให้ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 150 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินระดมทุนที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอราว 230 ล้านบาท ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยเฉพาะการขยายงานขายโครงการใหญ่ ทั้งในประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม CLM (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ในปี 2561-2562 เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจ และก้าวสู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยีสารสนเทศและโซลูชั่นครบวงจรในประชาคมอาเซียน
อนึ่ง VCOM ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท ประกอบด้วย 1.ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Distributor) บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ (Vendor) 7 ราย คือ Oracle, Hitachi Data Systems, Palo Alto Networks, Arista, Infoblox, Informatica และ Splunk ซึ่งเป็นผู้ผลิตระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลก ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจนี้ คิดเป็นสัดส่วน 75% ของรายได้รวม
2.ธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Services) บริษัทให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยแบ่งประเภทการให้บริการออกเป็น 3 ประเภท คือ บริการบำรุงรักษา บริการด้านการติดตั้ง และบริการงานเฉพาะทางที่ต้องใช้ความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญ โดยปัจจุบันรายได้จากธุรกิจนี้ คิดเป็นสัดส่วน 25% ของรายได้รวม
โดย VCOM มีจุดแข็งในการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Distributor) และการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ (Vendor) 7 รายใหญ่ระดับโลก อีกทั้งบริษัทยังได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าระดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท
ประกอบด้วยผู้รวบรวมระบบงาน (system integrators) และผู้ใช้งานทั่วไป (end users) ประเภทองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้นเชื่อว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน