TGCIพุ่งชนซิลลิ่งรับลูก SCC ควบรวมธุรกิจเซรามิกดันแวลู่กระฉูด ลุ้นวิ่งต่อเป้าขั้นต่ำ 5 บ.

สืบเนื่องจากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC วานนี้ (20 ธ.ค.60) มีมติอนุมัติการสนับสนุนการปรับโครงสร้างธุรกิจเซรามิก ด้วยการควบบริษัทย่อยของที่บริษัท ถือหุ้นผ่านบริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด (CCCL) รวมทั้งหมดจำนวน 5 บริษัท (ธุรกรรมการควบบริษัท) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทย

ประกอบด้วย บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด (TCC) , บริษัท เดอะ สยาม เซรามิค กรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด (SGI) , บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด (SSG) ,บริษัท เจมาโก จำกัด (GMG) และบริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGCI

โดยบริษัทใหม่จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเท่ากับ 5.96 พันล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 5.96 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเท่ากับทุนชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทย่อยทั้ง 5 ขณะที่จากข้อมูลทางการเงินรวมเสมือนของบริษัทใหม่ บริษัทใหม่มีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 เท่ากับ 1.34 หมื่นล้านบาท และมีรายได้รวมสําหรับปี 2559 จำนวน 1.37 หมื่นล้านบาท และสําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 เท่ากับ 1.03 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น TGCI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวขึ้นแรงอย่างมีนัยสำคัญ

โดยราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ทำจุดสูงสุดของวัน (Ceiling) ที่ระดับ 3.04 บาท ปรับตัวขึ้น 0.70 บาท หรือ 29.91% ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ระดับ 3.04 บาท และต่ำสุดที่ระดับ 2.32 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 166.89 ล้านบาท

ขณะที่เป็นที่น่าจับตาว่าราคาหุ้นในวันนี้ (21 ธ.ค.60) จะยังปรับตัวขึ้นแรงอีกหรือไม่ เนื่องจากการที่ SCC ทำการควบรวมบริษัทที่ทำเนินธุรกิจเซรามิกเข้าด้วยกันนั้นจะส่งผลดีในแง่ของการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่

โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า จากกรณีที่ SCC จะทำการควบรวม 5 บริษัทย่อยผู้ดำเนินธุรกิจเซรามิกเข้าด้วยกัน พร้อมจัดตั้งเป็นบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น จะเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทดังกล่าวได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ในด้านของบริษัทย่อย TGCI จะมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นถึงระดับ 5 บาท ก่อนจะถึงวันควบรวมกิจการในเดือนส.ค.ปี 2561

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของ “ผู้สื่อข่าว” พบว่า บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGCI ในปี 2559 มีกำไรสุทธิ 198.77 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 60 มีกำไรสุทธิ 169.91 ล้านบาท

ส่วนบริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด หรือ TCC มีผลขาดทุนสุทธิ 55.33 ล้านบาทในปี 2559  ขณะที่มีงวด 9 เดือน ปี 60 มีกำไรสุทธิ 169.28 ล้านบาท

ด้านบริษัท เดอะ สยาม เซรามิค กรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด หรือ SGI ในปี 2559 มีกำไรสุทธิ 152.75 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนปี 60 มีกำไรสุทธิ 80.86 ล้านบาท ส่วนบริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด หรือ SSG ปี 59 มีกำไรสุทธิ 17.41 ล้านบาท ขณะที่มีงวด 9 เดือนปี 60 มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท และบริษัท เจมาโก จำกัด หรือ GMG เป็นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท (บริษัทใหม่) ปี 59 มีกำไรสุทธิ 0.35 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนปี 60 มีกำไรสุทธิ 0.83 ล้านบาท

ดังนั้นเท่ากับว่าหากมีการควบรวมกิจการทั้ง 5 บริษัทเข้าด้วยกันสำเร็จจะช่วยสร้างมูลค่าให้กับบริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยหากรวมกำไรของทั้ง 5 บริษัทภายในปี 2559 จะมีกำไรสุทธิทั้งหมด 299.60 ล้านบาท