CPT มั่นใจ Q4/60 โตกระฉูด เล็งนำเงินระดมทุนขยายกิจการ-รุกตลาดตปท.
CPT มั่นใจ Q4/60 โตกระฉูด เล็งนำเงินระดมทุนขยายกิจการ-รุกตลาดตปท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีหุ้นไอพีโอน้องใหม่ บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวานนี้ (20 ธ.ค.60) โดยเปิดเทรดที่ราคา 2.34 บาท จากราคาไอพีโอ 2.30 บาท และระหว่างวันได้ถูกแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องจนมาปิดเทรดที่ราคา 2.08 บาท ต่ำกว่าราคาไอพีโอเกือบ 10%
ล่าสุดวันนี้ (21 ธ.ค.60) นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาทางการเงิน CPT เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้น CPT หลุดจองจากราคาไอพีโอวานนี้คาดเป็นผลมาจากในช่วงนี้มีหุ้นไอพีโอเข้ามาซื้อขายติดต่อกัน เลยส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมาจนทำให้ราคาหุ้น CPT หลุดจองจากราคาไอพีโอที่ 2.30 บาท
“ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจมาก เนื่องจาก CPT มีพื้นฐานที่ดี ยังมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเงินระดมทุนก็จะนำไปใช้ในการขยายกิจการทั้งหมด ไม่ได้นำไปชำระหนี้ เนื่องจากไม่ได้มีการสร้างหนี้ระยะยาว โดย CPT มีแผนนำเงินประมาณ 200 ล้านบาทไปก่อตั้งโรงงานใหม่ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และมีมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้น รวมถึงมีแผนก่อตั้งสำนักงานสาขาในต่างประเทศอย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท” นายวิชา กล่าว
โดย CPT มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว หลังเข้าตลาด 900 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นหุ้นไอพีโอ จำนวน 270 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30% ส่วนกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่ไม่ติดไซเรนท์ พีเรียด จำนวน 135 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 15% ซึ่งรวมเป็น 405 ล้านหุ้น ส่วนกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่ติดไซเรนท์ พีเรียด ตามเกณฑ์ของตลาดฯ จำนวน 495 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 55% ทำให้หุ้นที่ซื้อขายในตลาดฯ ตอนนี้มีจำนวน 405 ล้านหุ้น
นอกจากนี้ นายวิชา เปิดเผยเพิ่มเติมในประเด็นไซเรนท์ พีเรียด ว่า จากการพูดคุยกับทางผู้ถือหุ้นเดิมทราบว่าทางผู้ถือหุ้นเดิมไม่ได้มีการขายหุ้นออกมา โดยมองว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องขายหุ้นออกมา เนื่องจาก CPT ยังมีศักยภาพในการเติบโต และมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่มีเหตุผลในการขายหุ้นออกมา
โดยสัดส่วนการถือหุ้นหลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอล่าสุด กลุ่มนายสมศักดิ์ หลิมประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ถือหุ้นอยู่35%, กลุ่มนายอภิชาติ ปีปทุม กรรมการผู้จัดการ ถือหุ้น 28% และกลุ่มนายนพดล วิเชียรเกื้อ ถือหุ้น 10.5%
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/60 คาดว่าบริษัทจะเติบโตโดดเด่นที่สุดเนื่องจากจะมีการรับรู้ในส่วนของกำไรสุทธิมากที่สุดของปี โดยเปรียบเทียบกับในช่วงปี 59 ที่ปริษัทมีการรับรู้กำไรในช่วงไตรมาส 4/59 อยู่ที่ 60 ล้านบาท จากกำไรสุทธิทั้งปีที่ 111 ล้านบาท
อนึ่ง CPT เป็นบริษัทของคนไทยที่ให้บริการในเรื่องของการออกแบบ ผลิต และติดตั้งเกี่ยวกับระบบควบคุมไฟฟ้าครบวงจร ที่สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ของโลก รวมถึงมีธุรกิจด้านสาธาณูปโภค เช่น การบริหารจัดการน้ำ การจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ครัวเรือน เป็นต้น
ด้านราคาหุ้น CPT ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 2.16 บาท ปรับตัวขึ้น 0.08 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ระดับ 2.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.14 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 86.19 ล้านบาท