สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ธ.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า บริษัทหลายแห่งได้ประกาศเพิ่มการลงทุนและเพิ่มค่าจ้างให้กับพนักงาน หลังจากสภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,782.29 จุด เพิ่มขึ้น 55.64 จุด หรือ +0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,684.57 จุด เพิ่มขึ้น 5.32 จุด หรือ +0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,965.36 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.06%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญาของสเปน โดยการเลือกตั้งในแคว้นแห่งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเป็นแคว้นขนาดใหญ่ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อสเปน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.6% แตะที่ 390.69 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,109.74 จุด เพิ่มขึ้น 40.57 จุด หรือ +0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,603.98 จุด เพิ่มขึ้น 78.76 จุด หรือ +1.05% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,385.97 จุด เพิ่มขึ้น 33.20 จุด หรือ +0.62%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำนิวไฮที่ระดับเหนือ 7,600 จุดเป็นครั้งแรก ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนำโดยหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ ถึงแม้ว่าตลาดจะมีแรงกดดันจากข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอของสหราชอาณาจักรก็ตาม
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 78.76 จุด หรือ +1.05% ปิดที่ 7,603.98 จุด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง หลังจากสหรัฐเปิดเผย GDP ไตรมาส 3 ซึ่งมีการขยายตัวน้อยกว่าการประมาณการครั้งก่อน และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ระดับ 1270.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.6 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 16.239 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 919.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.05 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,029.65 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 58.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 64.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1871 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1877 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3381 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3391 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7706 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7666 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.35 เยน จากระดับ 113.41 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9884 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9866 ฟรังก์สวิส