ERW-CENTEL จ่อพุ่งแรงรับครม.ไฟเขียวลดภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง กระตุ้นรายได้คึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (26 ธ.ค.60) นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ จังหวัดสุโขทัย มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 1 ม.ค.2561 จนถึง 31 ธ.ค.2561

โดยประชาชนสามารถนำค่าใช้จากการท่องเที่ยวในเมืองรองมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พัก โดยไม่จำเป็นต้องพักเฉพาะโรงแรมเท่านั้น แต่เป็นรีสอร์ท โฮมสเตย์ ได้เช่นกัน ส่วนอีก 22 จังหวัดที่เหลือ ให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาไปพิจารณา หากเห็นว่าควรจะได้รับการส่งเสริมด้วย ก็สามารถประกาศเพิ่มเติมเป็นรายกรณีได้

 

ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าว” มองว่า ประเด็นดังกล่าวจะส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะบริษัทที่มีโรงแรมตั้งอยู่ในเมืองรองมากที่สุด

โดยเมืองรองนั้นเป็นจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองหลัก หรือเมืองท่องเที่ยว อาทิ จังหวัดเชียงราย ,ลพบุรี ,พิษณุโลก ,หนองคาย ,มุกดาหาร ,นครสวรรค์ ,พัทลุง ,ลำพูน ,แพร่ ,สุโขทัย เป็นต้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะไปท่องเที่ยวในเมืองรอง และส่งผลให้ยอดการใช้บริการในโรงแรมของจังหวัดดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่โรงแรมในเมืองรองนั้นค่อนข้างซบเซาเนื่องจากไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยว

ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่า บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทมีการกระจายตัวของโรงแรมในจังหวัดต่างๆโดยเฉพาะเมืองรองมากที่สุด โดยโรงแรม HOP INN ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือ ERW มีอยู่ในเกือบทุกพื้นที่ อาทิ จังหวัดพิษณุโลก ,หนองคาย ,สระแก้ว เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เป็นอีกบริษัทที่จะได้รับผลดีจากประเด็นดังกล่าว โดยโรงแรมในเครืออย่าง เซ็นทารา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เซ็นทรา ตั้งอยู่ในเมืองรอง อาทิ แม่สอด ,หาดใหญ่ ประเด็นดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้ราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง

โดย ล่าสุด ราคาหุ้นของ ERW  ณ เวลา 14.47 น. อยู่ที่ระดับ 8.30 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือคิดเป็น  1.22% ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 62.51 ล้านบาท ,ขณะเดียวกันราคาหุ้น CENTEL อยู่ที่ระดับ 56 บาท ปรับตัวขึ้น 1.75 บาท หรือคิดเป็น  3.32% ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 188.03 ล้านบาท