SCC บวกกว่า 2% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้า 550 บ. ชี้บริษัทใหม่หนุนการเติบโต
SCC บวกกว่า 2% โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ชูเป้า 550 บ. ชี้บริษัทใหม่หนุนการเติบโต โดยล่าสุด ณ เวลา 11.12 น. อยู่ที่ 490 บาท บวก 10 บาท หรือ 2.08% สูงสุดที่ 492 บาท ต่ำสุดที่ 482 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 834.46 ล้านบาท
ผู้ข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ล่าสุด ณ เวลา 11.12 น. อยู่ที่ 490 บาท บวก 10 บาท หรือ 2.08% สูงสุดที่ 492 บาท ต่ำสุดที่ 482 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 834.46 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.47%
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ธ.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 550 บาท/หุ้น
โดยปรับโครงสร้างธุรกิจเซรามิก จะนำ TGCI ควบรวม 4 บริษัทย่อย เป็นบริษัทใหม่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และศักยภาพในการแข่งขัน จากมูลค่าเพิ่ม (Synergies) ในด้านการตลาดและการขาย ด้านการผลิต รวมถึงการวิจัยพัฒนาสินค้า บริษัทใหม่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก และจะช่วยเพิ่มมูลค่า อีกทั้งส่งผลบวกทางอ้อมต่อ SCC ที่ถือหุ้นบริษัทใหม่ 90.93% คงประมาณการเพราะฐานกำไรของบริษัทใหม่ 9 เดือนแรกยังต่ำเพียง 412 ล้านบาท
ทั้งนี้ SCC แจ้งต่อตลาดฯ ที่ประชุมคณะกรรมการได้อนุมัติ ปรับโครงสร้างธุรกิจเซรามิก ด้วยการควบบริษัทย่อยของที่บริษัท ถือหุ้นผ่านบริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด (CCCL) รวมทั้งหมดจำนวน 5 บริษัท (ธุรกรรมการควบบริษัท) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด (TCC) รวมถึง บมจ.ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ (TGCI)
พร้อมทั้งบริษัท เดอะ สยาม เซรามิค กรุ๊ป อินดัสทรี่ส์ จำกัด (SGI) อีกทั้ง บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด (SSG) และบริษัท เจมาโก จำกัด (GMG) เป็นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท (บริษัทใหม่) ซึ่งบริษัทใหม่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยการควบรวมกิจการคาดจะแล้วเสร็จในเดือน สิงหาคม ปี 2561
อีกทั้ง บริษัทใหม่ที่จะเป็นบริษัทหลัก (Flagship Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกขนาดใหญ่ในประเทศไทย ธุรกรรมการควบบริษัทจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการดำเนินธุรกิจ และศักยภาพในการแข่งขัน จากมูลค่าเพิ่ม (Synergies) ในด้านการตลาดและการขาย ด้านการผลิต รวมถึงการวิจัยพัฒนาสินค้าเพื่อตอบสนองลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเซรามิก เดิม SCC มีแต่ TGCI ที่จดทะเบียนในตลาด ณ สิ้นไตรมาส 3/60 มีสินทรัพย์รวม 3,915 ล้านบาท มีส่วนผู้ถือหุ้น 3,466 ล้านบาท และ มีรายได้รวม 9 เดือนแรก 1,896 ล้านบาท การควบรวมเป็นบริษัทใหม่ จะมีสินทรัพย์รวม 13,363 ล้านบาท
ส่วนผู้ถือหุ้น 8,081 ล้านบาท และ มีรายได้รวม 9 เดือนแรกเท่ากับ 10,294 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จึงทำให้บริษัทใหม่จะเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนมากขึ้น ช่วยเพิ่มมูลค่าตลาด บนฐานราคาปิด TGCI เมื่อวาน มูลค่าตลาดของบริษัทใหม่จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 14,396 ล้านบาท เทียบกับส่วนผู้ถือหุ้นบริษัทใหม่ 8,081 ล้านบาท และ มูลค่าตลาดของ TGCI 5,160 ล้านบาท และ ส่งผลบวกทางอ้อมต่อ SCC ที่ถือหุ้นบริษัทใหม่ 90.93% แต่จะมีปัญหาในเรื่อง Free Float ที่นักลงทุนรายย่อยถือหุ้นรวมกันไม่ถึง 15%