SUPER บวก 2.59% รับ “ทริสฯ” ให้เครดิตครั้งแรก คาดภายใน 3 ปีรายได้โต 5.5-6.5 พันลบ.
SUPER บวก 2.59% รับ "ทริสฯ" ให้เครดิตครั้งแรก คาดภายใน 3 ปีรายได้โต 5.5-6.5 พันล้านบาท ยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายกว่า 40%
ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้นบริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ณ เวลา 10.28 น. อยู่ที่ 1.19 บาท บวก 0.09 บาท หรือ 2.59% สูงสุดที่ 1.21 บาท ต่ำสุดที่ 1.18 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 167.75 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.17%
โดยราคาหุ้น SUPER ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายรอบเช้าหลังมีข่าวทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรบริษัทที่ระดับ “BBB-” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แน่นอน ซึ่งบริษัทได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และแนวโน้มเชิงบวกของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน
ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจและสร้างกระแสเงินสดได้อย่างที่วางแผนไว้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะดำเนินโครงการต่างๆ ที่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างได้ตามแผนและได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ แม้ระดับการก่อหนี้จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะยังคงต่ำกว่า 70%
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นหลังโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หลายโครงการเปิดดำเนินงาน รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นประมาณ 3,600 ล้านบาทในปี 2559 และประมาณ 4,300 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 จากระดับต่ำกว่า 400 ล้านบาทในช่วงปี 2555 จนถึงปี 2558
นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,500-6,500 ล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเริ่มฟื้นตัวหลังจากที่ลดต่ำลงในช่วงลงทุน โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) เพิ่มขึ้นเป็น 80% ในปี 2559 และ 85.30% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 เมื่อเทียบกับผลขาดทุนในปี 2557 และปี 2558
อีกทั้ง คาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานของ SUPER จะอยู่เหนือระดับ 75% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 5,000 ล้านบาทในปี 2562 อย่างไรก็ดี แม้กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้น แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเมื่อเทียบกับภาระหนี้จะลดลง โดยภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้กำไรจากการดำเนินงานหลังหักดอกเบี้ยจ่ายลดต่ำลง
ขณะที่ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SUPER ให้ราคาเป้าหมายที่ 1.70 บาท มีอัพไซด์จากราคาล่าสุด 42.86%