ตลท.สั่งถอด IFEC ออกจากการคำนวณดัชนี SET หลังโดนแขวน SP เกิน 1 ปี

ตั๋ว B/E เป็นเหตุ! ตลท.สั่งถอดหุ้น IFEC ออกจากการคำนวณดัชนี SET หลังโดนแขวน SP นานกว่า 1 ปี มีผล 12 ม.ค.61


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถอดหุ้นบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ออกจากการคำนวณดัชนีตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.61 เนื่องจากหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ถูกสั่งพักการซื้อขายนานกว่า 1 ปี จะไม่ถูกนำมารวมในการคำนวณดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ (SET Index)

อนึ่ง  IFEC ได้ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี ,ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธ.ค.59 ส่งผลให้มีการสืบสาวราวเรื่องไปจนพบต้นตอของเรื่องฉาวว่า นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ หรือหมอวิชัย แอบนำหุ้น บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ แคป แมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นของโรงแรมดาราเทวี ไปเป็นหลักประกันให้เจ้าหนี้ยืดจากหนี้ตั๋วบี/อี ที่มีมูลค่าเพียง 100 ล้านบาท โดยมีเจ้าหนี้คือบริษัทหลักทรัพย์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด และสุดท้ายก็ปล่อยให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้

โดยการกระทำดังกล่าวเป็นธุรกรรมที่ประธาน IFEC และกรรมการดำเนินการโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ เนื่องจากขณะนั้น IFEC ไม่มีกรรมการตรวจสอบและไม่ผ่านการรับรองจากผู้ถือหุ้น ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามการซื้อขายทันทีในวันที่ 28 ธ.ค.59 ก่อนตลท.จะปลดเครื่องหมาย SP ออกในวันที่ 4 ม.ค.60

ขณะที่ต่อมาพบการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี เพิ่มเติมในช่วงต้นปี 60 คิดเป็นมูลค่าถึง 200 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนโซลาลิสเป็นเจ้าหนี้ และภายหลังยังขุดพบหนี้ตั๋วบี/อี ที่ต้องชำระเพิ่มขึ้นเป็น 3.50 พันล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระเดือนพ.ย.60 อีก 3 พันล้านบาท รวมเป็น 6.50 พันล้านบาท ตลท.จึงได้ขึ้นเครื่องหมาย SP อีกครั้งในวันที่ 12 ม.ค.60

ทั้งนี้ในภายหลังจากมีประเด็นดังกล่าว ผู้ถือหุ้นรายย่อยผนึกกำลังใช้พลังเสียงที่มีเพื่อแสดงออกถึงความไม่ไว้วางใจที่มีต่อ “หมอวิชัย” ผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นมา เริ่มตั้งแต่การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/60 เมื่อวันที่ 25 ม.ค.60 ในการประชุมเพื่อเลือกคณะกรรมการบริษัทฯ แทนตำแหน่งที่ว่าง

โดยขณะนั้น “นายทวิช เตชะนาวากุล” เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IFEC ได้เสนอตัวและทีมเข้ามาเป็นกรรมการ เพื่อฟื้นฟูกิจการของ IFEC ให้กลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง

พร้อมกับแผนงานที่ชัดเจนในการคืนหนี้ให้กับสถาบันการเงิน พร้อมกับเดินหน้าธุรกิจ การเร่งปิดงบการเงินปี 2559 เพื่อนำไปสู่การปลดเครื่องหมาย SP ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายของ IFEC แต่ “หมอวิชัย” ในฐานะประธานกรรมการ IFEC และประธานการในที่ประชุม กลับไม่เสนอรายชื่อคณะกรรมการของฝั่งของ “ทวิช” เข้าสู่การประชุม

อย่างไรก็ตามในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.60 ผู้ถือหุ้นแสดงจุดยืนด้วยการลงคะแนน ไม่เห็นชอบคณะกรรมการที่ “หมอวิชัย” เสนอมาทั้งหมด และเกิดความโกลาหลขึ้นระหว่างประชุมทำให้มีผู้มาลงคะแนนเสียงไม่เพียงพอ ส่งผลให้ต้องมีการจัดประชุมขึ้นใหม่ ซึ่งในการประชุมรอบ 2 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.60 มีวาระที่สำคัญคือ การแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ รอบนี้ประธาน IFEC เสนอรายชื่อทั้งสองฝั่ง แต่ในการประชุมครั้งนี้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน

โดยมีการประกาศใช้วิธีการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการ ด้วยวิธีการเทคะแนน หรือ Cumulative Voting ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมาย และขัดข้อบังคับของบริษัท ซึ่งผลของการประชุมในครั้งนั้น ทำให้กรรมการ IFEC ในฝั่งของ “วิชัย” ได้ที่นั่งกรรมการ 2 ท่าน ขณะที่ในฝั่งของ “ทวิช” ได้รับการเลือกตั้ง 5 ท่าน และต้องหมดวาระถึง 3 คน ในเดือนเม.ย.60

ดังนั้น บริษัทได้จัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีในวันที่ 2 พ.ค.60 เพื่อเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่หมดวาระในการประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้ง โดยการประชุมในครั้งนี้มีการเลือกตั้งกรรมการแทนชุดเดิมที่หมดวาระ ซึ่งยังคงเลือกใช้วิธีการเลือกตั้งแบบ Cumulative Voting  ซึ่งผลที่ออกมาคือกลุ่มของ “หมอวิชัย” ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการเสียงข้างมาก ซึ่งผู้ถือหุ้นตัดสินใจยื่นหนังสือไปยังกรมทะเบียนธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อคัดค้านการแต่งตั้งกรรมการ IFEC ขณะที่ได้ออกเสียงไม่รับรองผลการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ม.ค.60 และในวันที่ 14 ก.พ.60

โดยภายหลังการตรวจสอบกรมทะเบียนธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีคำวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งกรรมการด้วยวิธี Cumulative Voting ของ IFEC เข้าข่ายมิชอบด้วยกฎหมาย และผิดข้อบังคับบริษัท นั่นหมายความว่าการประชุมทั้ง  2 ครั้งที่ “หมอวิชัย” ซึ่งดำรงตำแหน่งประธาน IFEC และประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เลือกใช้วิธีการ Cumulative Voting ขัดกฎหมาย ดังนั้นการทำธุรกรรมต่างๆ ของกรรมการ ย่อมไม่มีผลทางกฎหมาย ทำให้กรรมการในฝั่งของ “หมอวิชัย” กลายเป็นบอร์ดกำมะลอ

 

Back to top button