GPSC บวกแรง 4% ทำ “ออลไทม์ไฮ” ไม่หวั่นโบรกฯแนะ “ขาย”
GPSC บวกแรง 4% ทำ "ออลไทม์ไฮ" ไม่หวั่นโบรกฯแนะ "ขาย" มองกำไรปี 60-61 ไม่สดใส ล่าสุด ณ เวลา 10.38 น. ราคาอยู่ที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ระดับ 74.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 71.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 493.49 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ณ เวลา 10.38 น. ราคาอยู่ที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ระดับ 74.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 71.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 493.49 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น GPSC ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2558
อย่างไรก็ตาม บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ “ขาย” GPSC ราคาเป้าหมาย 63.50 บาท/หุ้น แม้ประทับใจกับแผนธุรกิจที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับกลุ่ม PTT และการขยายไปยังธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้บริษัทมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง อย่างไรก็ตามผลประกอบการคาดเติบโตอ่อนตัวในปี 60-61 ที่ 16%/9% (VS ปี 16 ที่ 28%) จากโครงการใหม่ที่เข้ามาน้อยลง ในขณะที่การเติบโตในปี 20 ยังคงมีความเสี่ยงเนื่องจากต้องพึ่งโครงการใหญ่เพียง
ทั้งนี้การที่ GPSC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคหลักให้กับกลุ่ม PTT (70% revenue contribution) ไม่เพียงมีความเสี่ยงในระดับต่ำเนื่องจากมีสัญญาระยะยาวรองรับและโอกาสในการไม่ต่อสัญญาของลูกค้าที่ค่อนข้างน้อย ยังสามารถสร้างการเติบโตที่แตกต่างจากโรงไฟฟ้าทั่วไปที่ต้องรอคอยแผนรับซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐโดยบริษัทสามารถเติบโตไปกับการขยายธุรกิจของกลุ่ม PTT ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผิตไฟฟ้ารวม 1.4GW พร้อมโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาซึ่งหากแล้วเสร็จจะช่วยหนุนกำลังผลิตไฟฟ้าเตะระดับ 1.9GW ในปี 2019 (+12% CAGR 2017-19)
โดย ประเมินกำไรสุทธิของ GPSC เติบโตอ่อนตัวในปี 60-61 ที่ 16% และ 9% ตามลำดับ ไม่ดึงดูดเมื่อเทียบการเติบโตในปี 16 ที่ 28% ทั้งนี้การเติบโตที่ชะลอตัวในปี 60 เกิดจากผลประกอบการของโรงไฟฟ้า IRPC-CP ซึ่งมี major customer shutdown ในไตรมาส 1/60 และ commissioning shutdown เพื่อรองรับ Phase 2 ในไตรมาส 3/60 ในขณะที่ปี 61กำไรสุทธิคาดโตได้ราว 9% เท่านั้นหลังมีเพียงโครงการ IRPC-CP2 และ Ichinoseki solar (+8% ของกำลังการผลิตเดิม) ที่จะรับรู้รายได้เพิ่มเติมเข้ามา
ทั้งนี้ GPSC ไม่เพียงเป็นแกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตให้กับธุรกิจของกลุ่ม PTT ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจพลังงานขนาดใหญ่ของไทย แต่ยังคงแสวงหาโอกาสในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่างๆทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยแบ่งเป็น กำลังการผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการแล้ว 1,530 เมกะวัตต์ (MW) ในขณะที่มีโครงการอีกราว 392 MW อยู่ระหว่างการพัฒนาซึ่งจะทยอยรับรู้แล้วเสร็จในปี 2019 หนุนกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมที่ 1,922 MW หรือเพิ่มขึ้น 26% จากปัจจุบัน หนุนผลประกอบการระยะ 3 ปีข้างหน้า
โดยการที่ GPSC มีกลุ่ม PTT เป็นลูกค้าหลักทำให้บริษัทมีความมั่นคงทางรายได้สูงโดยลดโอกาสในการไม่ต่อสัญญาของลูกค้าอุตสาหกรรมได้อย่างมีนัยสำคัญ ไม่เพียงเท่านั้นยังเปิดโอกาสให้ GPSC มีแนวทางการเติบโตที่ต่างออกไปจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายอื่นๆที่ต้องรอคอยแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากภาครัฐ โดยบริษัทสามารถเติบโตตามการขยายธุรกิจของกลุ่ม PTT ซึ่งมีธุรกิจกระจายอยู่ทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด GPSC มีโครงการ CUP4 ขนาด 45MW SCOD ปี 19 เพื่อรองรับการขยายกำลังผลิตของ PTTGC ซึ่งเรามองว่าโอกาสในการขยายธุรกิจลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง