ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย – บล.เอเซีย พลัส

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


ลุ้นดัชนีปิดเหนือ 1,อ2อ จุด เพื่อเกิดสัญญาณฟื้นตัวจาก MACD ตัดเส้น Signal ขึ้น กลยุทธ์ระยะสั้น ยังคงชื่นชอบเล่นกับหุ้นส่งออก อิงกับเทรนเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ ชอบ HANA, KCE, SVI, VNG และ TUF 

มุมมองและการวิเคราะห์

– ตลาดหุ้นเอเซียช่วงเช้าวันนี้ยังคงยืนในแดนบวกลบสลับเป็นรายประทศต่อไปอีกวัน โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในภูมิภคที่ 2.66% ตามด้วยตลาดหุ้นไต้หวันปรับเพิ่ม 1.2% ตลาดหุ้นนิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้น 0.78% ตลาดหุ้นเกาหลีปรับเพิ่ม 0.50% และตลาดหุ้นฮ่องกงบวกไป 0.27% สวนทางกับตลาดหุ้นกลุ่ม TlP ที่วันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง  โดยตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปรับลดลงมากที่สุด 0.49% ตลาดหุ้นอินโดนิเซียปรับตัวลดลง 0.1% ขณะที่ตลาดหุ้นไทย SET lndex ช่วงเช้าปิดที่ 1,517 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 7.11 จุด หรือเท่ากับ 0.47% 

– บริษัทจดทะเบียนได้ประกาศงบ 1Q58 มาแล้วกว่า 90% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ซึ่งคิดเป็น Market Cap เกือบ 100%พบว่า กำไรสุทธิของตลาดอย่ที่ระดับ 2.24 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 23.3% ของประมาณกำไรตลาดทั้งปี ที่ ASPS ประเมินไว้ที่ 9.59 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าประมาณการที่คาดไว้ ทำให้ฝ่ายวิจัยฯ เริ่มปรับลดประมาณการกำไรตลาดลงราว 5% เหลือ 9 แสนล้านบาท โดยมีกลุ่มที่คาดว่าจะถูกปรับลดประมาณการกำไรลง คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (ที่ยอดขายต่ำกว่าคาดสวนทางกับต้นทุนขายและบริหารที่กลับเพิ่มขึ้น) กลุ่มรับเหมาฯ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (มีเพียง SCCC เท่านั้นจะถูกปรับลดจากยอดขายที่ลดลงตามการชะลอตัวในประเทศ) กลุ่มบันเทิง (มีการปรับลดประมาณการใน MCOT VGl และ BEC) กลุ่มสื่อสาร (โดยหุ้นในกลุ่มที่มีโอกาสปรับกำไรลงคือ SAMART SlM JAS TRUE และ DTAC) กลุ่มประกัน (THREL ปรับลดประมาณการลงราว 14%) กลุ่มอาหาร และเกษตร (ปรับลดกำไรของ CPF และ GFPT)

อย่างไรก็ตาม ในงวด 1Q58 ที่ผ่านมายังคงมีหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไรทำได้ดีกว่าคาดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่อิงเศรษฐกิจจากภายนอก โดยหุ้นในกลุ่มที่จะถูกปรับเพิ่มประมาณการขึ้น เริ่มจาก กลุ่มเดินเรือคอนเทนเนอร์ (ปรับเพิ่มกำไรปี 58 ของ RCL ขึ้น 39%จากต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง) กลุ่มโรงพยาบาล (ปรับเพิ่มประมาณการกำไร BH ขึ้น 8.4%) ซึ่งโดยสรุปแล้ว หากอิงประมาณการกำไรปี 2558 ใหม่ที่ 9 แสนล้านบาท หมายความว่ากำไร 9 เดือนของปีนี้ ต้องทำให้ได้ 7.3 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก เนืองจากไตรมาสแรกของทุกปีมักจะเป็นไตรมาสที่ทำกำไรได้สูงสุด ดังนั้นเชื่อว่าโอกาสการปรับลดประมาณการลงได้อีก โดยเฉพาะหุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ ดังที่กล่าวข้างต้น หรือ หากราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีนี้ไม่สามารถทยานขึ้นแตะ 70 เหรียญฯ ต่อบาร์เรลได้ก็มีความเสี่ยงที่จะปรับลดลงได้อีกเช่นกัน  

– ดัชนียังคงประคองตัวได้ดีเหนือแนวรับ 1,500 จุด มองช่วงบ่ายดัชนียังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1,500 – 1,520 จุด แต่หากปิดยืนเหนือ 1,525 จุด ขึ้นไปได้ จะเกิดสัญญาณบวกจาก MACD ตัดเส้น Signal Line ขึ้นได้ ทำให้ SET lndex น่าจะฟื้นตัวต่อในระยะถัดไป

 

กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic  :  ยังคงอิงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า  เลือก HANA, SVl, KCE, VNG  และ TUF 

– หุ้นเด่นเดือน พ.ค.58 AAV BEAUTY  BJCHl  lCHl  SYNTEC  THCOM และ WORK 

– หุ้นปันผลเด่นที่จะเป็นทางเลือกยามดอกเบี้ยขาลง ASK BTS lNTUCH 

– หุ้นผลประกอบการฟื้นตัว มองพลังงานที่ยัง Laggards PTTEP, PTTGC 

– หุ้น PE ต่ำ และมี Story เด่น STPl, BJCHl  

– Portfolio Update : ASK, SVl, SYNTEC, BJCHl, PTTEP

Back to top button