ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
สรุปตลาดภาคเช้า
ตลาดภาคเช้าสามารถยืนในแดนบวกได้ตลอดได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ แม้ว่าในแง่ของปัจจัยทางเศรษฐกิจในประเทศยังคงดูไม่ดีนัก หลังหลายฝ่ายมีการปรับเป้า GDP ไทยในปี 58 นี้ ลงจากประมาณการเดิม โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นหลัก ปิดตลาดเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 7.11 จุด (+0.47%) มาอยู่ที่ 1,517.52 จุด มูลค่าซื้อขาย 1.6 หมื่นล้านบาท
แนวโน้ม ภาคบ่าย
ประเมินแนวโน้มดัชนีในรอบบ่ายจะยังสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ต่อเนื่อง หลังจากการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของอดีตนายกในช่วงเช้าที่ผ่านไปได้อย่างราบรื่น ส่วนประเด็นในต่างประเทศยังต้องรอดูการแก้ไขปัญหาหนี้สินประเทศกรีซเป็นหลัก เนื่องจากใกล้ถึงวันครบกำหนดชำระหนี้แล้ว โดยเราแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก แต่ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาหลังดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาใกล้ระดับแนวต้านแรกที่ 1,518 จุด
วิเคราะห์ทางเทคนิค
WIIK ราคาปิด 3.70 บาท
แนวรับ 3.66 บาท แนวต้าน 4.00 บาท
แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 3.60 บาท
กราฟ Wiik เริ่มดีดตัวขึ้นและอยู่ในระหว่างการฟอร์มตัวเข้า W-shape และมีสัญญาณซื้อใน RSI สนับสนุนการ rebound นี้ อีกทั้งแท่งเทียนกำลังจะวิ่งเข้าใกล้แนวจุด Parabolic เพื่อเปลี่ยนแนวโน้มจากลงเป็นขึ้น หากทำได้จะขึ้นแรง แนะนำเข้าเก็งกำไรในระยะเริ่มต้นนี้ไว้ก่อน
BSM ราคาปิด 1.00 บาท
แนวรับ 0.99 บาท แนวต้าน 1.14 บาท
แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 0.97 บาท
กราฟ BSM เคลื่อนไหวเป็น Side way Down มาตั้งแต่ปลายปี 57 ขณะที่ราคาต่ำกว่า 90 ตังค์ เริ่มมีแรงสะสม และมีระดับต่ำของราคาที่ยกขึ้นช้าๆ และพยายามที่จะวิ่งตัดผ่านแนว Down trend นี้ไป โดยหากผ่าน 1.10 บาท จะกลายเป็น Bottom จากลงเป็นขึ้นแรง จึงแนะนำเข้าดักเก็งกำไรไว้ก่อน
เด็กแนว
– PPP เวลาตลาดหุ้นลง มันคือการสะท้อนผลผลิตในประเทศไปในตัว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ จากที่ GDP ทรุดในปัจจุบันทำให้ที่สุดแล้วตลาดหุ้นก็กระทบไปด้วย เพราะมันไปกระทบกับผลการดำเนินงานของรายบริษัทนั่นเอง ผลประกอบการแคลคอมพ์ อย่าง PPP เคยเป็นหนึ่งในหุ้นที่ราคาขึ้นโดดเด่นแต่แล้วก็ร่วงตามตลาด เมื่อประกาศงบออกมาก็ชะลอตัวลง 10% อันเนื่องมาจากธุรกิจด้านติดตั้งอุปกรณ์สิ่งแวดล้อมให้กับพวกรับเหมาก่อสร้างชะลอตัวลง ด้านผลิตภัณฑ์เครื่องไฟฟ้าก็หดตัวไปด้วย นอกจากนี้ภาวะของฟ้าฝนที่แปรปรวนทำให้บริษัทอินฟินิทกรีน ที่ผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์จ่ายให้รัฐประมาณ 15 MW ก็มีชั่วโมงของการรับแดดลดลง แต่ยังโชคดีที่ต้นทุนต่างๆ ถูกลงทำให้ผลการดำเนินงานถือว่าชะลอตัวเล็กๆ
แต่โดยรวมยังคาดหมายว่าปี 58 ภาพรวมจะกลับมามีกำไรเติบโตได้ 10-15% ไม่ยาก การที่ราคาลงมากว่า 30% ตลอดเดือนแบบนี้ส่งผลดีค่า PE ลดลงมาเหลือเพียง 13 เท่าต่ำสุดในกลุ่มผู้ขายไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ถ้าเรา up กลับไปที่ค่า PE แค่ 15 เท่า ราคาเป้าสั้นอย่างน้อยต้องมี 9 บาท เด็กแนวว่านี่คือโอกาสที่กราฟลงลึก ใกล้ Oversold ราคากำลังไต่ขึ้นมาคว้าไว้ยังไม่สาย ราคาตรงนี้ยังจัดว่าเป็น low ในรอบ 3 เดือนด้วยซ้ำ
– DCON พอราคาหุ้นลงตามตลาด ประเด็นบวกเก่าๆ ก็เงียบไป อย่างที่กล่าวกันว่าเวลาหุ้นลงปัจจัยลบท่วมตลาด เวลาหุ้นขึ้นทุกอย่างมองดี อย่าง DCON ตอนราคาขึ้นร้อนแรงถูกพูดเหมารวมไปกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ว่าจะมีใครมาร่วมพันธมิตรด้วย จะมีต่างชาติเข้ามาถือหุ้นและเป็นฐานทุนในการก่อสร้าง โดยเฉพาะเรื่องของการขายเสาเข็มให้กับรางรถไฟ หรือแม้แต่การเปลี่ยนไม้หมอนรถไฟ เป็นคอนกรีต ซึ่งทั้งหมดนี้มองว่า DCON เป็นเจ้าที่ผลิตได้และจะมียอดขายแรงกว่าใคร แม้เรื่องนี้จะเงียบไปพร้อมๆ กับหุ้นลง แต่เวลาต่างๆ ก็ใกล้เข้ามา เพราะตอนนี้ รมต. คลังก็พูดชัด ทีมเศรษฐกิจก็บอกชัดว่าต้องเร่งงานก่อสร้างโดยเฉพาะระบบราง ดังนั้น เด็กแนวเชื่อเลยว่าอีกไม่นานจากนี้จะเป็นกระแสมาใหม่ และหุ้น DCON ก็จะถูกเก็งกำไรกันรอบใหม่ ขณะที่ราคาหุ้นลงมาพอประมาณแล้ว กราฟเริ่มทรงตัวน่าจะเป็นจังหวะของการเข้ารับเก็งกำไรสักรอบ มองต้านได้อย่างน้อย 2 บาท ติดไม้ติดมือไว้บ้าง