หุ้นเอเชียเขียวยกแผง-วอลล์สตรีททำนิวไฮ รับผลประกอบการแบงก์ใหญ่แข็งแกร่ง!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีของตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮพร้อมกันอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงธนาคารเจพีมอร์แกน เชส, แบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ และธนาคารเวลส์ ฟาร์โก

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,803.19 จุด เพิ่มขึ้น 228.46 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,786.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.68 จุด หรือ +0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,261.06 จุด เพิ่มขึ้น 49.28 จุด หรือ +0.68%

 

ด้าน ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 23,827.98 จุด เพิ่มขึ้น 174.16 จุด, +0.74% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,428.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด, +0.00% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,702.56 จุด เพิ่มขึ้น 290.02 จุด, +0.92% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,932.37 จุด เพิ่มขึ้น 48.41 จุด, +0.44%

ขณะเดียวกัน ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,510.97 จุด เพิ่มขึ้น 14.55 จุด, +0.58% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,532.01 จุด เพิ่มขึ้น 11.45 จุด, +0.33% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,825.24 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด, +0.14% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,844.35 จุด เพิ่มขึ้น 29.73 จุด, +0.34%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในรายงานอีกฉบับว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่ทรงตัวในเดือนต.ค.

สำหรับสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจที่ไม่รวมรถยนต์ ซึ่งมีการนำไปคำนวณตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.

ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานพุ่งขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของค่าเช่า, การดูแลสุขภาพ และราคารถยนต์