ราคาทองคำปิดวานนี้ร่วงกว่า 20 ดอลล์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 20.9 ดอลลาร์ หรือ 1.70% ปิดวานนี้ (19 พ.ค.) ที่ระดับ 1,206.70 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 66.1 เซนต์ ปิดที่ 17.071 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 27.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,150.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 17.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 775.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น พุ่งขึ้น 1.3% แตะที่ 95.38 ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.135 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2007 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.1991
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 1,079 ตัน ลดลง 1% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากจีนซึ่งเป็นตลาดทองคำรายใหญ่นั้น ชะลอการนำเข้าทองคำ อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว