สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ม.ค. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 26,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮพร้อมกันอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ “Beige Book” ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวได้ดี และมีแนวโน้มที่สดใสในปี 2561 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,115.65 จุด พุ่งขึ้น 322.79 จุด หรือ +1.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,802.56 จุด เพิ่มขึ้น 26.14 จุด หรือ +0.94% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,298.28 จุด เพิ่มขึ้น 74.59 จุด หรือ +1.03%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทเบอร์เบอร์รี่ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำของอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 397.97 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,183.96 จุด ลดลง 62.37 จุด หรือ -0.47% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,725.43 จุด ลดลง 30.50 จุด หรือ -0.39% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,493.99 จุด ลดลง 19.83 จุด หรือ -0.36%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการล้มละลายของบริษัทคาริลเลียน ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของอังกฤษ ขณะที่การอังกฤษเตรียมสอบสวนอดีตผู้บริหารของคาริลเลียนเพื่อหาสาเหตุการล้มละลาย นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นเบอร์เบอร์รี่ และหุ้นเพียร์สัน ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่สาม
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,725.43 จุด ลดลง 30.50 จุด หรือ -0.39%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีกเป็นสัปดาห์ที่ 9 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 63.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 69.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) จากการที่นักลงทุนมองว่า แนวโน้มของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงซบเซา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1339.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.3 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 17.166 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ 1,010.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 21.55 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,109.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ “Beige Book” ซึ่งระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงขยายได้ดีในช่วงที่ผ่านมา และเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่สดใสในปี 2561
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.12 เยน จากระดับ 110.30 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9625 ฟรังก์ จากระดับ 0.9587 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.2224 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2272 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3872 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3797 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.8003 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7963 ดอลลาร์สหรัฐ