FLOYD ปิดพุ่งชนซิลลิ่ง 30% ลุ้นรายได้ปี 61 โต 20% ตามการเร่งลงทุนโครงการภาครัฐ

FLOYD ปิดพุ่งชนซิลลิ่ง 30% ลุ้นรายได้ปี 61 โต 20% ตามการเร่งลงทุนโครงการภาครัฐ โดยหุ้นปิดตลาดวันนี้(19ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 2.86 บาท บวก 0.66 บาท หรือ 30.00%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 147.40 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ปิดตลาดวันนี้(19ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 2.86 บาท บวก 0.66 บาท หรือ 30.00%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 147.40 ล้านบาท  ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุด 2.86 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2.24 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้นแรงหลังหุ้นเป็นขาลงมาเกือบ 2 เดือนนับตั้งแต่หุ้นเข้าตลาดเมื่อวันที่ 1 พ.ย.60

โดยก่อนหน้านี้นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟลอยด์ (FLOYD) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2561 จะฟื้นตัวจากปี 2560 โดยคาดว่ารายได้จะเติบโต 15-20% จากปีนี้ เนื่องจากภาคเอกชนที่ชะลอการลงทุนในปี 2559 เริ่มกลับมาทยอยลงทุน และเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 ประกอบกับการเร่งลงทุนของโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสีต่าง ๆ

ขณะที่คาดว่าจะได้รับงานจากบมจ.โรบินสัน (ROBINS) ต่อเนื่องตามแผนการขยายสาขา หลังจากที่ไตรมาส 2/60 บริษัทได้งานของ ROBINS ซึ่งนับเป็นลูกค้ารายใหม่ในธุรกิจห้างสรรพสินค้า  รวมถึงยังได้รับงานปรับปรุงในโครงการ JAS สาขารามอินทรา และ The JAS สาขาวังหิน จากบมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ตลอดจนได้ส่งทีมผู้บริหารเดินหน้าเข้าแนะนำตัวกับลูกค้ารายใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มความหลากหลายประเภทงานที่ให้บริการด้วย

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานติดตั้งระบบหลายโครงการ มูลค่าราว 80-200 ล้านบาท ได้แก่ โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่พักอาศัยมูลค่า 40-50 ล้านบาท โครงการห้างสรรพสินค้ามูลค่า 70-80 ล้านบาท และโครงการประเภทอื่นๆ 70-120 ล้านบาท โดยจะรับทราบผลการเข้าประมูลได้ภายในปีนี้ทั้งหมด รวมทั้งเข้าประมูลงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพิ่มรายได้ให้แข็งแกร่ง

นายทศพร กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อช่วงวันที่ 1 พ.ย.60 นับเป็นโอกาสที่ดี ทำให้บริษัทสามารถเข้าประมูลงานหรือเสนอการให้บริการในโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น  ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญในงานให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล  รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์ ติดตั้งระบบที่ครบวงจรให้แก่ลูกค้า ซึ่งบริษัทสามารถเข้าไปรองรับงานได้

บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า FLOYD (HOLD:[email protected]): ช่วงไตรมาส 3/60 กำไรหดตัว 84.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 60 คาดมีกำไร 45 ลบ. หด 61.6%YoY ก่อนพลิกโต 112.8%YoY ในปี 61 จากการกลับมาขยายสาขาของลูกค้าหลักและมาร์จิ้นงานลูกค้าใหม่ดีขึ้นแต่ราคาหุ้น Upside จำกัดจึงปรับลดเป็น “ถือ”

Back to top button