VTE จ่อชงผถห.โหวตเพิ่มทุน PP 5 มี.ค.นี้ ระดมเงินใช้หนี้-เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น GEPT เป็น 27%
VTE จ่อชงผถห.โหวตเพิ่มทุน 5 มี.ค.นี้ หลังบอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุนขาย PP 460 ล้านหุ้น หวังระดมเงินใช้หนี้ตั๋ว B/E-ลงทุน GEPT เพิ่ม ดันสัดส่วนแตะ 27%
บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 เพื่อขอพิจารณาอนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 187,675,687 บาท จากเดิม 1,266,554,542 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,078,878,855 บาท รวมถึงขอพิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก 1,078,878,855 บาท เป็น 1,539,209,053 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 460,330,198 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ในวันที่ 5 มี.ค. 61
โดยเป็นการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบุคคลในวงจำกัดดังกล่าว เป็นนักลงทุนที่บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจาซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ
พร้อมทั้งจัดสรรให้แก่ บริษัท โนเบิล เพลนเน็ต พีทีอี แอลทีดี (Noble Planet Pte. Ltd.) หรือ Noble จำนวน 37,775,531 หุ้น รวมถึงบริษัท แพลนเน็ต เอนเนอร์ยี่โฮลดิ้ง พีทีอี แอลทีดี (Planet Energy Holdings Pte. Ltd.) หรือ Planet จำนวน 75,554,667 หุ้น และ Macquarie Bank Limited จำนวน 47,000,000 หุ้น
โดยขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาและตกลงกับนักลงทุนที่มีชื่อเสียงและฐานะทางการเงินที่ดี ที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ (synergy) โดยบริษัทฯจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับลงทุนดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนการจัดส่งหนังสือนัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ไปยังผู้ถือหุ้น
อีกทั้ง ขอพิจารณาจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ Macquarie Bank Limited ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ตามที่ได้รับอนุมัติแล้วจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 และจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติว่า การรับรองการเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน GEP นั้น จะต้องมีมติอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2561 ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้
โดยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 นั้น ทางบริษัทฯจะขอพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (Green Earth Power (Thailand) Co., Ltd.) หรือ GEPT โดยบริษัทฯจะทำการชำระการซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้นด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯให้เป็นการแลกเปลี่ยน โดยจะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEPT จำนวน 188,634 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ GEPT ในราคาหุ้นละ 1,021.35 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิมของ GEPT รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 192,661,336 บาท
ด้าน นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ กรรมการบริหาร เปิดเผยว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นในฐานะที่บริษัทฯเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าที่ประเทศเมียนมาร์นั้น บริษัทฯจะนำเงินทุนที่ได้ ไปใช้ในการชำระหนี้จากตั๋วแลกเงิน(B/E) ที่กู้ยืมมาใช้สำหรับการก่อสร้างครั้งนี้ ซึ่งการลดภาระทางการเงินดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในปีนี้และต่อเนื่องไปอีก 4ปี จนถึงปี 2564 ตามระยะการก่อสร้างของโครงการที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 เฟส
อีกทั้งเป็นผลดีต่อกลุ่มผู้ถือหุ้นเก่าเพราะการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนโดยการแลกหุ้นกับ GEPT จะทำให้บริษัทฯถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 12% เป็น 27% และส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นตามอัตราส่วนการถือหุ้น โดยรายได้จากการเข้าถือหุ้น GEPT จะเป็นรายได้ที่มั่นคงและมีระยะเวลานานถึง 30 ปี
ทั้งนี้ โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ได้ช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบอัตราส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น ต่อจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเพิ่มทุน (EPS) แล้วนั้น พบว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะสูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งบริษัทฯและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ