RICHY วิ่งแรง 4% ลุ้นกำไรปี 61 ทุบสถิติ หลังตุน Backlog แน่น 4 พันลบ.

RICHY วิ่งแรง 4% ลุ้นกำไรปี 61 ทุบสถิติ หลังตุน Backlog แน่น 4 พันลบ. โดยล่าสุด ณ เวลา 15.06 น. ราคาอยู่ที่ 1.87 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 3.89% สูงสุดที่ระดับ 1.89 บาท ต่ำสุดที่ระกับ 1.81 บาท มูลค่าการซื้อขาย 17.87 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY ณ เวลา 15.06 น. ราคาอยู่ที่ 1.87 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 3.89% สูงสุดที่ระดับ 1.89 บาท ต่ำสุดที่ระกับ 1.81 บาท มูลค่าการซื้อขาย 17.87 ล้านบาท

ด้านนางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร RICHY เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรในปี 61 สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) จากการรับรู้รายได้โครงการ ริชพาร์ค @ ทริปเปิ้ล สเตชั่น มูลค่าโครงการ 2.7 พันล้านบาท ซึ่งเริ่มทยอยโอนได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/61

โดยจะมีรายได้ของจากการโอนโครงการดังกล่าวเข้ามาในปีนี้อยู่ที่ราว 2 พันล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 60 ที่มีอยู่ 4 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ในปี 61 อยู่ที่ 3 พันล้านบาท

ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 61 บริษัทวางแผนเปิด 4 โครงการ มูลค่ารวม 7 พันล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด โดยที่ 2 โครงการที่บริษัทมีที่ดินแล้ว คือ 1.โครงการเดอะริช ศรีนครินทร์ มูลค่าโครงการราว 3 พันล้านบาท ตั้งอยู่ทำเลเดียวกับโครงการเดอะ ริช พาร์ค ศรีนครินทร์ บนพื้นที่ 3 ไร่

สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นโครงการมิกซ์ยูส 1 อาคาร สูง 34-35 ชั้น ประกอบด้วยพื้นที่เช่า แบ่งเป็น พื้นที่เช่าสำหรับร้านค้าปลีก 3 ชั้น และพื้นที่เช่าสำหรับสำนักงาน 4 ชั้น ส่วนที่เหลือของโครงการจะเป็นห้องชุดพักอาศัยสไตล์ลอฟท์ เพดานสูง 4.5 เมตร ซึ่งจะเริ่มเปิดการขายในช่วงปลายไตรมาส 2/61 ราคาขายเฉลี่ยกว่า 100,000 บาท/ตารางเมตร

2.โครงการ เดอะริช เอกมัย มูลค่าโครงการประมาณ 4 พันล้านบาท บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ ทำเลติดกับบิ๊กซีเอกมัย ระหว่างเอกมัยซอย 6 และซอย 8 ซึ่งจะเป็นอาคารชุดพักอาศัย 39 ชั้น ราคาขายเฉลี่ยมากกว่า 200,000 บาท/ตารางเมตร จะเริ่มเปิดการขายในช่วงปลายปี 61

โดยโครงการ เดอะริช เอกมัย เป็นโครงการที่มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่นจำนวน 2 ราย ให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมทุนพัฒนาร่วมกับบริษัท เนื่องจากทำเลย่านเอกมัยเป็นทำเลคนญี่ปุ่นที่มาทำงานหรือท่องเที่ยวในประเทศไทยนิยมมาพักอาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมของการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น ซึ่งหากได้ข้อสรุปจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรเพียง 1 รายเท่านั้น

 

Back to top button