AQUA ฟ้องแพ่ง-อาญา “ช่อง 3”-ตระกูลมาลีนนท์ 15 คนรวด! เรียกสินไหม 333 ลบ.

AQUA เดินหน้าฟ้องหมิ่นประมาทกลุ่มผู้บริหาร-พิธีกรชื่อดังช่อง 3 รวมถึง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ในคดีแพ่งและอาญา หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงส่งผลให้บริษัทมีความเสียหายร้ายแรง โดยเรียกค่าเสียหายจำนวน 333 ล้านบาท นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 เวลา 9.00 น.


บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ในวันนี้บริษัทได้ยื่นฟ้องแพ่งและอาญาคดีหมิ่นประมาท บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และพวก ที่ศาลแพ่งและศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยแต่งตั้งนายณัฐพล ชิณะวงศ์ เป็นทนายความรับผิดชอบ

สำหรับจำเลย 10 ราย ในคดีอาญา ประกอบด้วย 1.บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด 2.นายประวิทย์ มาลีนนท์ 3.นายประชุม มาลีนนท์ 4.นางสาวรัตนา มาลีนนท์ 5.นางสาวนิภา มาลีนนท์ 6.นางสาวอัมพร มาลีนนท์ 7.นางรัชนี นิพัทธกุศล 8.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ 9.นางสาวพิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ และ 10.นายภาษิต อภิญญาวาท

รวมถึง 15 รายในคดีแพ่ง ประกอบด้วย 1. บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด 3.นายประวิทย์ มาลีนนท์ 4.นายประชุม มาลีนนท์ 5.นางสาวรัตนา มาลีนนท์ 6.นางสาวนิภา มาลีนนท์ 7.นางสาวอัมพร มาลีนนท์ 8.นางรัชนี นิพัทธกุศล 9.นายสมประสงค์ บุญยะชัย 10. นายแมทธิว กิจโอธาน 11.นายวรวรรธน์ มาลีนนท์ 12.นายทศพล มาลีนนท์ 13. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ 14.นางสาวพิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ และ 15.นายภาษิต อภิญญาวาท

โดยในส่วนคดีอาญา บริษัทยื่นฟ้องจำเลยในข้อหาตามมาตรา 326 และ 328 ประมวลกฎหมายอาญา ส่วนคดีแพ่งบริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยจำนวน 333ล้านบาท อีกทั้งได้ยื่นฟ้องทั้งในส่วนของผู้ที่กล่าวข้อความและผู้ควบคุมดูแลการออกอากาศของสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งบริษัทเห็นว่ามีหน้าที่ต้องพิจารณากลั่นกรองเนื้อหาการนำเสนอข่าวก่อนแพร่ภาพและเสียงออกอากาศ แต่กลับไม่ระงับยับยั้งการออกอากาศ ซึ่งข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทบริษัท แผนกงานรับฟ้องของศาลรับคดีไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 326/2561 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 เวลา 9.00 น.

ทั้งนี้ นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมายื่นฟ้องในนาม AQUA โดยเป็นการฟ้องคดีหมิ่นประมาท กรณีมีการกล่าวข้อความและแสดงผังผ่านรายการทางโทรทัศน์ในทำนองว่า AQUA เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ มีอาบอบนวดเข้ามาถือหุ้น มีการฟอกเงิน ปั่นหุ้น เป็นกลุ่มทุนสนับสนุนธุรกิจของ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ เสี่ยกำพล กับพวก

โดยบริษัทเห็นว่าข้อความกล่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นเหตุให้บริษัท คณะกรรมการของบริษัท ผู้ถือหุ้น และพนักงานของบริษัท ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้รับความเสียหาย ทำให้ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจกับกลุ่มบริษัทเกิดความสับสน โดยเฉพาะบริษัทประกอบธุรกิจตามกฎหมายเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์

อีกทั้งการกล่าวข้อความเช่นนี้ และการแสดงผังเป็นการใส่ความหมิ่นประมาทบริษัทอันเป็นเท็จ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เนื่องจากบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการค้ามนุษย์ ไม่มีการฟอกเงิน และไม่ได้ปั่นหุ้นให้แก่ผู้ใด

ส่วน นายกำพล เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัท ซึ่งไม่มีอำนาจบริหาร ไม่ได้เป็นกรรมการ หรือผู้มีอำนาจของบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น การกล่าวข้อความและแสดงแผนผังผ่านรายการโทรทัศน์มีจำนวนหลายครั้งต่อเนื่องกันหลายวัน บริษัทโดยมติของคณะกรรมการจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

รูปประกอบข่าว : นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ AQUA

Back to top button