สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ก.พ. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุดซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับย้ำจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นโบอิ้ง หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 4/2560 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,149.39 จุด เพิ่มขึ้น 72.50 จุด หรือ +0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,823.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.38 จุด หรือ +0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,411.48 จุด เพิ่มขึ้น 9.00 จุด หรือ +0.12%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทแคปิตอล พีแอลซี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 395.46 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,189.48 จุด ลดลง 8.23 จุด หรือ -0.06% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.55 จุด ลดลง 54.43 จุด หรือ -0.72% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,481.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.15 จุด หรือ +0.15%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากทางการจีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตชะลอตัวลงในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทแคปิตอล พีซี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.55 จุด ลดลง 54.43 จุด หรือ -0.72%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อนน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์พลังงานภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบได้สกัดแรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 64.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ขยับขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 69.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1343.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 18.3 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 17.241 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,004.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 28.90 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 1,023.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับย้ำว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2416 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2405 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4184 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4153 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.8052 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8084 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9309 ฟรังก์ จากระดับ 0.9340 ฟรังก์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ109.10 เยน จากระดับ 108.78 เยน