BGRIM มาตามนัด! จ่ายไฟโรงไฟฟ้า “ABPR 3” 133MW จับตาปีนี้ COD เพิ่มอีก 312MW

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ระบุว่า โครงการโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 (ABPR 3) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BGRIM ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในวันที่ 1 ก.พ. 2561

สำหรับ ABPR 3 มีกำลังการผลิตติดตั้ง 133 เมกะวัตต์ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าประเภทผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เป็นระยะเวลา 25 ปี ซึ่งวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า (COD) ดังกล่าวเป็นไปตามกำหนดระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและต้นทุนการก่อสร้างเป็นไปตามที่กำหนดไว้กับธนาคารผู้ให้สินเชื่อ

ทั้งนี้ ABPR 3 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการแรกจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมทั้งหมด 3 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 61 โดยโครงการโรงไฟฟ้า 3 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 399 เมกะวัตต์

โดยก่อนหน้านี้ นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM เปิดเผยว่า วันที่ 1 ก.พ. 2561 โครงการโรงไฟฟ้าบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 ขนาดกำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ (MW) จะดำเนินการจ่ายไฟฟ้าในรูปแบบเชิงพาณิชย์ (COD)

โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 90 MW และส่วนที่เหลือจำหน่ายให้กับลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะส่งผลทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 1,779 MW

ขณะเดียวกันภายในปี 2561 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมอีก ได้แก่ โรงไฟฟ้าบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 4 ขนาดกำลังการผลิต 133 MW จะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในเดือน ก.ค. 2561 และโรงไฟฟ้าบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 5 ขนาดกำลังการผลิต 133 MW จะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบภายในช่วงปลายปี 2561

ส่วนโครงการโซลาร์ฟาร์ม 7 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 31 MW จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในสิ้นปี 2561 รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่สปป.ลาว ขนาดกำลังผลิต 15 MW จะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในช่วงไตรมาส 4/2561 ดังนั้นจะทำให้ในปี 2561 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าสู่ระบบรวมทั้งสิ้น 450 MW และจะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบรวมทั้งสิ้นจำนวน 2,091 MW

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าภายในปี 2565 จะมีใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าให้ครบ 5,000 MW โดยปัจจุบันบริษัทมีใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าแล้วประมาณ 2,500 MW โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างแสวงหาโอกาสการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV จำนวนหลายโครงการ โดยคาดว่าจะสามารถทยอยสรุปผลการศึกษาเข้าลงทุนได้ภายในปี 2561