สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ก.พ. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนม.ค. อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ต่างก็ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ หลังจากเฟดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,186.71 จุด เพิ่มขึ้น 37.32 จุด หรือ +0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,821.98 จุด ลดลง 1.83 จุด หรือ -0.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,385.86 จุด ลดลง 25.62 จุด หรือ -0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐและเยอรมนี รวมทั้งรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนและเยอรมนี ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 393.52 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,003.90 จุด ร่วงลง 185.58 จุด หรือ -1.41% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,454.55 จุด ลดลง 27.38 จุด หรือ -0.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,490.39 จุด ลดลง 43.16 จุด หรือ -0.57%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทยักใหญ่อย่างโวดาโฟน หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ยังคงสร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,490.39 จุด ลดลง 43.16 จุด หรือ -0.57%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 65.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 69.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,347.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 8.6 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 17.155 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,007.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,024.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. พร้อมกับคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ จากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ในวันนี้
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.37 เยน จากระดับ 109.10 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9269 ฟรังก์ จากระดับ 0.9309 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2516 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2416 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4270 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4184 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.8040 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8052 ดอลลาร์สหรัฐ