GCAP ร่วงกว่า 3% ฟากโบรกฯยังแนะซื้อ เคาะเป้า 10.80 บ. คาดกำไร Q4/60 โตแตะ 7.88 ลบ.

GCAP ร่วงกว่า 3% ฟากโบรกฯยังแนะซื้อ เคาะเป้า 10.80 บ. คาดกำไร Q4/60 โตแตะ 7.88 ลบ. โดย ณ เวลา 15.58 น. อยู่ที่ 7 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ 7.15 บาท ต่ำสุดที่ 6.85 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 22.12 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP ณ เวลา 15.58 น. อยู่ที่ 7 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ 7.15 บาท ต่ำสุดที่ 6.85 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 22.12 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมลบ 1.04%

ด้าน บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (31 ม.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.80 บาท/หุ้น คาดไตรมาส 4/60 GCAP กำไรเติบโต 14% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 26% จากปีก่อน คาดกำไรไตรมาส 4/60 GCAP ที่ 7.88 ลบ. โดยปัจจัยหลักๆมาจากคาด New Loans ที่ 481 ลบ. เติบโต 53% จากปีก่อน จากการเข้าสู่ High Season ของรถเกี่ยวนวดข้าวและสินเชื่อสบายใจตลาดที่เริ่ม Launch ช่วงไตรมาส 3/60 จำนวน 4 ตลาด ได้แก่ ตลาดคลองเตย,ตลาดปัฐวิกรณ์,ตลาดบางพลี และตลาดพะเยา

อีกทั้งคาดว่า Spread ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 14.26% จากสินเชื่อเช่าซื้อที่ให้ Yield สูง ชดเชยกับ Cost Of Fund ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากออกหุ้นกู้ดอกเบี้ย 6% ช่วงไตรมาส 3/60

พร้อมทั้งOPEX ปรับเพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสก่อน และ 49% จากปีก่อน จากการปรับเพิ่มพนักงานทั้งในส่วนของ Front และ Back office เพื่อรองรับการเติบโต และค่าใช้จ่ายในการสำรองหนี้ที่ 16 ลบ. เพิ่มขึ้น 6 ลบ.จากไตรมาส 3/60 จาก Technical NPL ในกลุ่มสินเชื่อตลาดซึ่งเกิดจากลูกหนี้ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถึงวิธีการชำระเงิน ทำให้เกิด Technical NPL

อย่างไรก็ตามมองว่าโอกาสที่NPL จะกลายหนี้สูญมีค่อนข้างน้อยเนื่องจากแม่ค้าในตลาดใช้แผงเป็นสินทรัพย์หลักในการประกอบอาชีพ

ทั้งนี้ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 61 จาก 70 ลบ. เป็น 86 ลบ. หรือเพิ่มขึ้น 24% ประมาณการเดิม โดยมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับตอบโตในปี 61 จากNew Loans ที่คาดว่าอยู่ระดับ 1,944 ลบ. หรือเติบโตกว่า 72% ปี 60 จากสินเชื่อเช่าซื้อที่คาดจะอยู่ที่ระดับ 900 ลบ. ทั้งรถเกี่ยวนวดข้าว,เครื่องยนต์เรือสปีดโบ๊ท และ รถเกี่ยวนวดข้าวมือ 2 (New Model) และสินเชื่อสบายใจตลาดที่จะเริ่ม Launch สินเชื่อสบายใจตลาดไท ช่วง ก.พ.นี้

โดยผู้ค้าในตลาดไทมีจำนวนผู้ค้าทั้งสิ้น 3,500 ราย ซึ่งใหญ่กว่าตลาดคลองเตยซึ่งมีผู้ค้าเพียง 1,300 รายโดยประมาณ รวมถึงรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อที่ปล่อยปี 60 ประมาณ 1,129 ลบ. เต็มปี และปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดเก็บหนี้ โดยเพิ่มความเข้มงวดกับทีมติดตามทวงถามเพื่อป้องกัน Technical Default ของลูกค้า รวมไปถึงเร่งรัดขายรถยึดเพื่อลดการตั้งสำรองหนี้

 

Back to top button