7 หุ้นวิ่งฉิวรับศักราชใหม่! โชว์ 1 เดือนโกยรีเทิร์นเกิน 30%
ต้อนรับศักราชใหม่ปี 2561 “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET ที่ปรับตัวขึ้นแรงเดือนมกราคม 2561 มานำเสนอ โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 29 ธ.ค.60-31 ม.ค.60 ซึ่งตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ทำการคัดเลือกหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงเกิน 30% มานำเสนอเป็นหลัก ซึ่งหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 7 ตัว
ต้อนรับศักราชใหม่ปี 2561 “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET ที่ปรับตัวขึ้นแรงเดือนมกราคม 2561 มานำเสนอ โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 29 ธ.ค.60-31 ม.ค.60 ซึ่งตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ทำการคัดเลือกหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงเกิน 30% มานำเสนอเป็นหลัก ซึ่งหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 7 ตัว คือ NPP, RSP, AEONTS, VNT, HUMAN, GIFT และ JMART ตามตารางประกอบ
โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET ปรับตัวขึ้น 4.17% โดยเทียบจากดัชนียืนอยู่ที่ระดับ 1,753.71จุด (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 1,826.86 จุด (31ม.ค.61) บวกไป 73.15 จุด โดยแรงซื้อที่เข้ามาหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นและหุ้นที่มีแนวโน้มของ Earnings ปี 2561 ที่ดีมากต่อเนื่อง รวมทั้งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันที่มีการประเมินมูลค่าไม่แพง
นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 4/60 จะออกมาดี และแนวโน้มกำไรปี 61 เติบโตโดดเด่น อย่างไรก็ตามหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นเดือนมกราคม 2561 มีดังตารางประกอบแต่ครั้งนี้จะขอเลือกนำเสนอข้อมูลประกอบเพียง 5 อันดับแรกเพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนเท่านั้น
อันดับ 1 คือ บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 63% โดยราคาหุ้นปรับตัวจากระดับ 0.73 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 1.19 บาท (31ม.ค.61) คาดนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้นเล็กเนื่องจากมีราคาถูก ประกอบกับบริษัทมีแผนเพิ่มทุนขาย PP ยิ่งทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้น
โดยบริษัทแจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 ม.ค. อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.06 พันล้านบาท จากเดิมที่ 1.66 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 400 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นละ 0.70 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 280 ล้านบาท จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) คือ Asia Alpha Equity Fund 1 ซึ่งเป็นกองทุนย่อยของ Asia Alpha Equity Master Fund ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ โดยมี Banjaran Asset Management Pte.Ltd. เป็นผู้จัดการกองทุน และเน้นการลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เกษตรกรรม เภสัชภัณฑ์ และอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคเอกเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ คาดว่าการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมี.ค.ซึ่งภายหลังการเสนอขายหุ้นดังกล่าวต่อ Asia Alpha Equity Fund 1 แล้วจะทำให้ Asia Alpha Equity Fund 1 เข้ามาถือหุ้นคิดเป็น 24.9% ของทุนจดทะเบียน โดย Asia Alpha Equity Fund 1 จะไม่ส่งตัวแทนเข้าเป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัท ดังนั้น จึงยังไม่มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท ขณะที่จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ห้ามขายหุ้น (silent period) โดยมีกำหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดภายใน 1 ปี
บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายกิจการ อีกทั้งยังมีเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคตของบริษัท
อันดับ 2 บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ RSP โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 47.59% โดยราคาหุ้นปรับตัวจากระดับ 4.98 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 7.35 บาท (31ม.ค.61) ราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงตลอดเดือนมกราคม หลังช่วงที่ผ่านมาหุ้นอ่อนตัวลงแรง อีกทั้งโบรกฯแนะให้เข้าลงทุนเนื่องจากเป็นหุ้น Laggard ทำให้นักลงทุนเข้ามาไล่ราคา
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า RSP ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 61 เท่ากับ 9.50 บาท ล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Melrose Avaneu โดย RSP ถือหุ้น 51% เพื่อจำหน่ายสินค้า Converse และ Pony ในกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะเปิดสาขาแรกได้ใน ก.พ. 61 ที่ Aeon Mall 1 ในกรุงพนมเปญ และสาขา 2 คาดว่าจะเปิดใน พ.ค. 61 ที่ Aeon Mall 2 มองบวกต่อดีลนี้ เพราะตลาดกัมพูชามีความต้องการ Converse อยู่แล้ว แต่ยังไม่มีตัวแทนอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังสามารถเริ่มจำหน่ายได้เร็วกว่าคาด และด้วยความที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ จึงถือเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมายเพิ่มเติมในอนาคต
อันดับ 3 บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 40.58% โดยราคาหุ้นปรับตัวจากระดับ 103.50 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 145.50 บาท (31ม.ค.61) ราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงตลอดเดือนมกราคม เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งนักวิเคราะห์แนะให้เข้าลงทุนทำให้ราคาเดือนดังกล่าวปรับตัวขึ้นทำนิวไฮต่อเนื่อง
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า นักลงทุนและผู้จัดการกองทุนได้เข้าร่วมงาน Corporate Day โดยผู้บริหารยืนยันที่จะขยายบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล หลังจากที่เศรษฐกิจภายในประเทศอ่อนแอในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และกฏใหม่ของ BoT ในเดือน ก.ย. อัตราการอนุมัติบัตรของ AEONTS เพิ่มขึ้นเป็น 65% จากเดิมที่ 50% และอยู่ระหว่างการเพิ่มวงเงินในบัตรให้กับลูกค้า นอกจากนี้เรายังไม่พบความเสี่ยงจาก NPL ที่เพิ่มขึ้น แนะนำให้ “ซื้อ” จากโอกาสในการเติบโตสูง
ทั้งนี้จากกฎระเบียบของ BOT ช่วยลดความกังวลในด้านหนี้เสีย และหนุนการอนุมัติบัตรใหม่ของ AEONTS และการเก็บหนี้ยังคงเป็นไปตามคาดหลังจากที่ระดับหนี้เสียยังคงที่หลังจากเพิ่มวงเงินสินเชื่อบุคคล
อีกทั้งการเช่าซื้อรถมือ 2 ช่วยให้ AEONTS สามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ และ AEONTS มีแผนที่จะขยายธุรกิจในส่วนนี้ ส่วน D/E ที่ 4 เท่ายังต่ำกว่าในอดีตที่สูงสุด 7 เท่า (เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น 20% ต่อปี)
ด้าน CLMV คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 3-4% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5% ในปีนี้ และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 10% ใน 2 ปี โดย ยังคงเน้นรายได้ในต่างจังหวัด (70% ของรายได้มาจากต่างจังหวัด ทำให้เรามองว่าการส่งออกและการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยสำคัญ)
คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้น 19-23% ในปี FY17-18F และคาดผลประกอบการ 4QFY17F ที่ 830 ล้านบาท (+10.8% QoQ) สิ้นสุดเดือน ก.พ.61
มูลค่าที่เหมาะสม 170 บาท อ้างอิง GGM คิดเป็น P/BV ที่ 2.3 เท่า อิงค่าเฉลี่ย 5 ปี และเรามองว่ามีโอกาสที่จะปรับประมาณการขึ้นจากแนวโน้มในการเติบโตที่เพิ่มขึ้น
อันดับ 4 บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) หรือ VNT โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 37.68% โดยราคาหุ้นปรับตัวจากระดับ 20.70 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 28.50 บาท (31ม.ค.61) ราคาหุ้นทะยานขึ้นแรงตลอดเดือนมกราคม เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรแนวโน้มไตรมาส 4/60 ออกมาโดดเด่น
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีการปรับประมาณการและราคาเหมาะสมขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นบวกต่อหุ้น โดยคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/60 ที่คาดจะไม่มีการตั้งสำรองต่างประเทศเหมือน 9 เดือนแรก ทำให้น่าจะเห็นกำไรที่เร่งตัวขึ้นมากจากไตรมาสก่อน
อันดับ 5 บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HUMAN โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 36.36% โดยราคาหุ้นปรับตัวจากระดับ 8.80 บาท (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 12.00 บาท (31ม.ค.61) โดยราคาหุ้นปรับตัวแรงและทำนิวไฮต่อเนื่องในเดือนมกราคม เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจธุรกิจ
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HUMAN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 60 บริษัทมั่นใจว่าจะมีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตจากปี 59 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 351.95 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 71.48 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 61 บริษัทตั้งเป้ามีรายได้และกำไรสุทธิเติบโต 25-30% จากปี 60 เนื่องจากธุรกิจการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล (HR) และธุรกิจการให้บริการด้านการบริหารจัดการ บัญชี และการเงิน (Financial) ที่มีงานขนาดใหญ่และขนาดเล็กเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่งผลให้กำลังซื้อและการลงทุนพัฒนาบุคลากรของลูกค้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มทำตลาดระบบบริหารทรัพยากรบุคคลสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของบริษัท โดยจะมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติและบริษัทขนาดใหญ่
ขณะที่บริษัทเตรียมเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่ที่มีฐานบุคลากรระดับ 10,000 คน ในช่วงเดือนม.ค.61 โดยเป็นธุรกิจกลุ่มด้านให้บริการจัดทำเงินเดือนและจัดทำบัญชีจำนวน 3 ราย แบ่งเป็นในประเทศไทย 2 ราย คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปที่ชัดเจน 1 รายภายในไตรมาส 1/61 และในประเทศสิงคโปร์จำนวน 1 ราย คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในไตรมาส 2/61
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน