ดอลล์อ่อนค่า ตลาดวิตกเฟดเลื่อนขึ้นดบ.หลังข้อมูลศก.แย่
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาดส่งผลให้นักลงทุนไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1133 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1118 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5672 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5548 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.97 เยน เทียบกับระดับ 121.16 เยน และทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9353 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7894 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7900 ดอลลาร์
นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่หลายรายการเมื่อคืนนี้ หากเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปก็จะส่งผลกระทบต่อดอลลาร์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้ดอลลาร์มีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.3% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิต หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองในเดือนเม.ย.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.24 ล้านยูนิต จาก 5.21 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.
ขณะเดียวกัน มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.1 ในเดือนเม.ย. และเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.6 ในเดือนพ.ค.
ด้านเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยรายงานเมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกร่วงลงสู่ระดับ 6.7 ในเดือนพ.ค. จาก 7.5 ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 8.3 ทั้งนี้ นักลงทุนต่างรอดูการแถลงเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันนี้ เพื่อที่จะประเมินความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย