สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ก.พ. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,601.27 จุด พุ่งขึ้น 410.37 จุด หรือ +1.70% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,981.96 จุด เพิ่มขึ้น 107.47 จุด หรือ +1.56% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,656.00 จุด เพิ่มขึ้น 36.45 จุด หรือ +1.39%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) ขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.2% ปิดที่ 372.93 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,282.77 จุด เพิ่มขึ้น 175.29 จุด หรือ +1.45% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,140.06 จุด เพิ่มขึ้น 60.85 จุด หรือ +1.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,177.06 จุด เพิ่มขึ้น 84.63 จุด หรือ +1.19%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ยังช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,177.06 จุด เพิ่มขึ้น 84.63 จุด หรือ +1.19%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยในรายงานประจำเดือนก.พ.ว่า อุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบในพื้นที่หลายแห่งของสหรัฐ มีแนวโน้มสูงขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 9 เซนต์ หรือเกือบ 0.2% ปิดที่ 59.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 62.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,326.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 43.1 เซนต์ หรือ 2.7% ปิดที่ 16.57 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 11.3 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 972.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 12.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 976.15 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2285 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2234 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3830 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3806 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7790 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 108.68 เยน จากระดับ 108.49 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9389 ฟรังก์ จากระดับ 0.9387 ฟรังก์