JMART ปลื้ม “JFin Coin” กระแสแรง! เปิดขาย 40 นาทีแรกยอดจองซื้อกระฉูด 80%

JMART ปลื้ม “JFin Coin” กระแสแรง! เปิดขาย 40 นาทีแรกยอดจองซื้อกระฉูด 80%


จากกรณีที่ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ทำการเปิดขายดิจิทัลโทเคน “JFin Coin” ครั้งแรกในวันนี้ โดยมีช่วงการเสนอขาย Presale ระหว่างวันที่ 14 – 28 กุมภาพันธ์ 2561 และเสนอขาย ICO ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 มีนาคม 2561 เพื่อระดมทุนด้วยดิจิทัล โทเคนต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (Initial Coin Offering: ICO) ในระบบ Blockchain

โดยจำนวน JFin Coin ทั้งหมด 300 ล้านเหรียญ แต่จะนำมาทำ Initial Coin Offering หรือ ICO ก่อน จำนวน 100 ล้านเหรียญ ที่หน่วยละ 6.6 บาท (เทียบได้กับ 0.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินระดมทุนประมาณ 660 ล้านบาท

ล่าสุด นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JVC เปิดเผย ผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 102 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ  ว่า หลังจากที่ได้มีการเสนอขาย ดิจิทัลโทเคน “JFin Coin” ในวันนี้เป็นวันแรก โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงขณะนี้ เวลาประมาณ 10.40 น. พบว่ามีผู้จองซื้อไปแล้วกว่า 80 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็น 80% จากที่เปิดขายจำนวน 100 ล้านเหรียญ

โดย นายธนวัฒน์ ระบุว่า “JFin Coin” ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้มหลาม ขณะนี้เหลือเพียงแค่ 20 ล้านเหรียญจากที่ขายทั้งหมด 100 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะสามารถขายได้ครบ 100 ล้านเหรียญภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้บริษัทจะระดมทุนเพื่อนำไปพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง หรือ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP)

อนึ่งวานนี้ (13 ก.พ.61) JMART ได้ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า การเสนอขาย “JFin Coin”  จะทำให้บริษัทได้รับเงินสดเข้ามาในบัญชีด้วยจำนวนระดมทุน 100 ล้านโทเคน ที่ราคา 6.60 บาทต่อโทเคน เงินสดภายหลังหักค่าธรรมเนียม ต่างๆ จะถูกบันทึกเป็นสินทรัพย์ของ JVC ตามมูลค่าเงินสุทธิที่ได้รับ (เดบิต เงินสด) และ JVC จะลง บันทึกหนี้สินเพิ่มขึ้นด้วยรายการเงินรับล่วงหน้า (Deferred Revenue) (เครดิต เงินรับล่วงหน้า)

โดยบริษัทจะได้รับเงินสดภายในช่วงไตรมาส 1 หรือหากการระดมทุนเสร็จสิ้นในช่วงเสนอขาย ICO บริษัทจะต้องรอการเคลียร์ลิ่งเงินเพื่อโอนให้กับบริษัท และจะได้รับเงินในช่วงต้นเดือนเม.ย. 61 ซึ่งเงินที่เข้าบัญชีจะเป็นเงินสกุลไทยบาท และคาดว่าจะปรากฎภายในงบการเงินไตรมาส 1/61

ส่วนวัตถุประสงค์ในการใช้เงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้พัฒนาระบบ (Platform Development) เพื่อประโยชน์ต่อผู้ ถือโทเคน ซึ่งรวมถึงการลงทุนพัฒนาระบบ Blockchain, Credit Scoring, Crypto-Wallet, Big Data Analysis, Mergers and Acquisitions, การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จำนวน 75%,

อีกทั้ง ใช้สำหรับการบริหาร การจัดการ การวิจัย และการออกโปรแกรมทางการตลาด จำนวน 20% และใช้สำหรับกิจกรรมอื่นๆ เช่น กฎหมาย และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5%

 

Back to top button