STEC ร่วง 6% ต่ำสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หลังงบปี 60 พลิกขาดทุนกว่า 610 ลบ.

STEC ร่วง 6% ต่ำสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หลังงบปี 60 พลิกขาดทุนกว่า 610 ลบ.จากตั้งสำรองขาดทุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดย ณ เวลา 10.39 น. อยู่ที่ระดับ 21.90 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 6.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 891.04 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ณ เวลา 10.39 น. อยู่ที่ระดับ 21.90 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 6.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 891.04 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวลงแรงในรอบ 1 ปี 4 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นลงไปทดสอบระดับ 21.90 บาท เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 60 เนื่องจากผลงานปี 60 ไม่สดใส

โดยบริษัทแจ้งผลการดำเนินงานปี 60 ขาดทุนสุทธิ 610.83 ล้านบาท จากปี 59 ที่มีกำไรสุทธิ 1.38 พันล้านบาท แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีรายได้รวม 2.12 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้าจากการชนะประมูลงานก่อสร้างก่อสร้างโครงการใหม่ได้เพิ่มขึ้น แต่บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมราว 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนหน้า เป็นผลจากต้นทุนงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากการบันทึกสำรองผลขาดทุนของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่

ทั้งนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในปัจจุบัน ราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าแรง ปรับตัวในทิศทางที่สูงขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ ประกอบกับมีการขยายระยะเวลาในสัญญางานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างของเจ้าของโครงการ ที่เป็นผลจากปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจควบคุมได้ ทำให้บริษัทจำเป็นต้องทบทวนต้นทุนโครงการอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

จากการพบว่าภายใต้ภาวะการณ์ดังกล่าวในปัจจุบัน จะเกิดผลขาดทุนจากโครงการระยะยาวขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงได้ทำการบันทึกผลขาดทุนดังกล่าวไว้ในงบกำไรขาดทุนของปี 60 บริษัทเชื่อว่าหากภาวะการณ์ต่าง ๆ ไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเป็นสาระสำคัญแล้ว จำนวนสำรองที่บันทึกไว้เพียงพอในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยค่าใช้จ่ายหลักที่สำคัญ ได้แก่ ต้นทุนงานก่อสร้างจำนวน 2.16 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 5.2 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32% และค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 419 ล้านบาท ลดลง 135 ล้านบาท หรือลดลง 24%

Back to top button