“เอเชีย ไบโอแมส” เคาะราคา IPO ที่ 1.80 บ. พร้อมขึ้นสังเวียน 27 ก.พ.นี้
"เอเชีย ไบโอแมส" หรือ ABM ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวล เคาะราคาขาย IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น ที่ 1.80 บ./หุ้น เปิดจองซื้อ 19-21 ก.พ. 61 จ่อเทรดตลาด mai วันที่ 27 ก.พ.นี้ โดยมี บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน
บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยเสนอขายที่ราคาหุ้นละ 1.80 บาท เปิดให้จองซื้อวันที่ 19-21 ก.พ. และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 27 ก.พ. 61 โดยมี บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงิน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ABM มีทุนเรียกชำระแล้ว 112.50 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 225 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น และภายหลังเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนชำระแล้ว 150 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น
โดยบริษัทวางแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนแบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.ใช้ลงทุนในโครงการขยายพื้นที่รวบรวมกะลาปาล์มเพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ระยะเวลาลงทุนในช่วงปี 2561-2562 โดยโครงการดังกล่าวจะรองรับการขยายตัวของความต้องการกะลาปาล์ม และการที่โรงไฟฟ้าชีวมวลที่จะเพิ่มขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
2.ใช้ลงทุนในโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งกับบริษัท แฟนซีวู๊ดอินดัสตรีส จำกัด (มหาชน) หรือ FANCY มูลค่าเงินลงทุน จำนวน 31 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 49% และทาง FANCY ถือหุ้น 51% โดยจะเริ่มลงทุนภายในไตรมาส 1/2561 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการประกันแหล่งผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลให้เพียงพอต่อความต้องการ
และ 3.ใช้ลงทุนในโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตไม้สับ และโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่าเงินลงทุน 20 ล้านบาท โดยจะสร้างโรงงานผลิตไม้สับ จำนวน 120,000 ตันต่อปี และได้เชื้อเพลงชีวมวลอัดแท่ง 24,000 ตันต่อปี และ 4.ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ด้าน นางสาวธิญาดา ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ ABM เปิดเผยว่า ในปี 59 บริษัทมียอดขาย จำนวน 570,000 ตันต่อปี ซึ่งเป็นยอดขายในประเทศ จำนวน 90% และส่วนที่เหลือส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ประมาณ 10% โดยคาดว่าในช่วงอนาคตสัดส่วนยอดขายต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่สูงขึ้น เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นจะเริ่มทยอยจ่ายไฟเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่บริษัทมีแผนที่ลดต้นทุนด้านการขนส่งเฉลี่ยปีละ 10% ในแต่ละปี เพื่อเป็นการช่วยให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทอยู่ในระดับที่คงที่ และจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ ด้วยการกระจายพื้นที่คลังเก็บวัตถุดิบให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดระยะทางการขนส่งระหว่างพื้นที่จัดเก็บ และแหล่งวัตถุดิบ
ขณะที่ นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ ABM เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมตัวสำหรับการเดินสายเพื่อนำเสนอข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป (road show) หวังว่านักลงทุนจะให้ความสนใจและมีการตอบรับที่ดี เมื่อประเมินจากช่วงก่อนหน้า ที่บริษัทมีการนำเสนอข้อมูลให้แก่นักวิเคราะห์ และมีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ บริษัทมองว่าผลประกอบการในปี 63 จะเติบโตได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่จะมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้มีความจำเป็นใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
อนึ่ง ABM ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวลให้กับผู้ที่มีความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล ทั้งผู้ที่มีความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต ได้แก่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และกลุ่มโรงไฟฟ้า และผู้ที่นำเชื้อเพลิงชีวมวลไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น กลุ่มผู้แปรรูปชีวมวล กลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ไม้ และกลุ่มที่นำเชื้อเพลิงชีวมวลไปจัดจำหน่ายต่อ