SSI คาด Q3/58 พลิกมีกำไร หลังปริมาณขายดีขึ้น

นายไพบูลย์ เกตุภักดีกูล ผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับมามีกำไรในไตรมาส 3/58 หลังจากไตรมาส 1/58 ขาดทุน 3.03 พันล้านบาท และแนวโน้มในไตรมาส 2/58 อาจจะยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่

โดยการที่คาดว่าจะกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 3 เนื่องจากแนวโน้มตลาดระยะสั้นเริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัว หลังจากราคาเหล็กลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกตลาดของโลกติดต่อกันถึง 7 เดือน ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณบวกในบางตลาด มีการปรับขึ้นราคาสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กบางประเภทในสหรัฐฯ ตลาดยุโรปตอนเหนือ และตุรกี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ แร่เหล็กและเศษเหล็ก ที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ยังเป็นแรงผลักดันราคาผลิตภัณฑ์เหล็กด้วย

ขณะที่คาดว่าปริมาณการขายจะกลับมาบางส่วนในไตรมาส 2 นี้ และส่วนต่างราคาจะกลับสู่ระดับปกติในไตรมาส 3 ที่คาดว่าจะกลับมามีกำไร แต่ถามว่าทั้งปีจะขาดทุนลดลงไหม ตรงนี้ก็ยังบอกไม่ได้แน่นอนเพราะว่าต้องดูสถานการณ์ต่างๆ อีกทีว่าจะฟื้นขึ้นหรือไม่ ส่วนปริมาณการขายเหล็ก HRC (เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน)ในปีนี้เราก็คาดว่าจะขายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.47 ล้านตัน ซึ่งไตรมาสแรกเราขายไปได้แล้ว 280,000 ตัน

สำหรับราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนเฉลี่ยในไตรมาส 2/58 คาดว่าจะลดลง 15-17% จากไตรมาส 1/58 ที่อยู่ระดับ 607 เหรียญสหรัฐ/ตัน และราคาเหล็กแท่งแบน (slab) ในไตรมาส 2/58 คาดว่าจะลดลง 10-12% จาก 370 เหรียญสหรัฐ/ตันในไตรมาส 1/58

ด้านการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 1.6 หมื่นล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้รับเงินราว 100 ล้านเหรียญ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนที่สนใจซื้อหุ้นดังกล่าว โดยวัตถุประสงค์ของบรัทจะนำมาเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัท อีกทั้งยังจะช่วยในการลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทให้ลดลงเหลือ 9 เท่า จากสิ้นไตรมาส 1/58 ที่มี D/E อยู่ที่ 21.6 เท่า

ทั้งนี้หากผลประกอบการในไตรมาส 2/58 ออกมาขาดทุน บริษัทก็ยังมีแผนการเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อรองรับไม่ให้ตลาดขึ้นเครื่องหมาย SP เพราะว่าหากขาดทุนในไตรมาส 2/58 อีก ส่วนของผู้ถือทุนก็จะติดลบ หลังจากที่สิ้นไตรมาส 1/58 ส่วนของผู้ถือหุ้นเหลืออยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ส่วนการเพิ่มทุนอีกหรือไม่นั้นก็จะต้องมีการพิจารณาอีกที เพราะการเพิ่มทุนครั้งนี้มีอายุถึงเมษายนปีหน้า

สำหรับงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ที่ 1 พันล้านบาท โดยเป็นการใช้ปรับปรุงเครื่องจักรในโรงงานของ SSI ที่ประเทศไทย 300 ล้านบาท และโรงถลุงเหล็ก SSI UK อีก 700 ล้านบาท ซึ่งมาจากระแสเงินสดของทั้ง 2 บริษัท