MALEE มั่นใจยอดขายโตกระฉูด ดันรายได้ปี 61 โตเข้าเป้า 30%
MALEE มั่นใจยอดขายโตกระฉูด ดันรายได้ปี 61 โตเข้าเป้า 30% พร้อมเดินหน้าสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศ
บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานปี 2561 จะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาว 9 ปี (58-66) หลังจากช่วงที่ 1 (58-60) ได้วางรากฐานและความเข้มแข็งขององค์กรในอนาคต ด้วยการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการผลิตและบุคลากร รวมทั้งด้านวิจัยพัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายและมีมูลค่าเพิ่มสูง นอกจากนั้นยังสร้างพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แม้ผลงานในปี 60 ที่ผ่านมายอดขายจะปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับภาพรวมตลาดเครื่องดื่มและน้ำผลไม้พร้อมดื่มในประเทศ ขณะที่บริษัทมีต้นทุนส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนเพื่อสร้างรากฐานสำหรับรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต แต่การลงทุนบางส่วนยังไม่สามารถสร้างรายได้ในทันที หรือยังไม่ถึงจุดที่มีประสิทธิภาพสูงพอ ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้นส่งผลให้กระทบผลประกอบการของบริษัทในระยะสั้น หรือนับจากนี้ไปอีกประมาณ 2 ไตรมาส
ด้าน นางสาวรุ่งฉัตร บัญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ MALEE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 30% จากปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศจะมาจากการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการในบริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด ในเวียดนามที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/61 และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/61 ทั้งนี้คาดว่าสัดส่วนการส่งออกจะสูงขึ้นจากปีก่อนที่ 36%
ส่วนยอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของลูกค้าในธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต (CMG) และการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการเริ่มออกสินค้าใหม่ที่ร่วมกับ MEGA ด้วย
ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน ตามการใช้งานกำลังการผลิตของโรงงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการออกสินค้าใหม่ที่มีมาจิ้นค่อนข้างดี รวมถึงบริษัทมีแนวทางการบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้วย
นอกจากนี้ ในปี 2561 คาดว่าจะไม่มีการลงทุนครั้งใหญ่ ทั้งการเข้าซื้อกิจการหรือการร่วมทุน แต่จะเป็นการเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาจากที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ โดยบริษัทตั้งงบลงทุนปกติราว 100-200 ล้านบาท ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตสำหรับการปรับปรุงโรงงานและสายการผลิต โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตที่ 330 ล้านลิตร/ปี
ด้านผลกระทบการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำตาล บริษัทมองว่าในปีนี้จะยังไม่มีการขึ้นราคาขายสินค้า เนื่องจากยังสามารถควบคุมได้ ซึ่งแผนในระยะสั้นบริษัทจะมีการเพิ่มราคาขายสินค้าจากราคาโปรโมชั่นแทนการขึ้นราคาขายสินค้าราคาเต็ม
“ปี 61 ก็ยัง roll out plan ได้ โดยไตรมาส 1/61 มีลูกค้า CMG ใหม่เข้ามา และ domestic ก็สามารถ pick up ได้ ส่วน brand ต่างประเทศยัง positive แต่คาดว่ายังไม่ Significant aggressive Growth” นส.รุ่งฉัตร กล่าว