สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 มี.ค. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันศุกร์ (2 มี.ค.) จากการที่นักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มนี้มองว่า ปฏิกิริยาตอบกลับที่ตลาดมีต่อการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมนั้นเลยเถิดเกินไป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,538.06 จุด ลดลง 70.92 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,691.25 จุด เพิ่มขึ้น 13.58 จุด หรือ 0.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,257.87 จุด เพิ่มขึ้น 77.31 จุด หรือ 1.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกรฺ์ (2 มี.ค.) จากการที่นักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 7.82 จุด หรือ 2.09% ปิดที่ 367.04 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,913.71 จุด ลดลง 277.23 จุด หรือ -2.27% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,136.58 จุด ลดลง 125.98 จุด หรือ -2.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,069.90 จุด ลดลง 105.74 จุด หรือ -1.47%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (2 มี.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากการที่นักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,069.90 จุด ลดลง 105.74 จุด หรือ -1.47%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (2 มี.ค.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกที่ว่าสหรัฐจะจุดปะทุการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 18.2 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 1323.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 16.466 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 965.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 13.45 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 986.65 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (2 มี.ค.) ซึ่งฟื้นตัวขึ้นหลังปรับตัวลดลงติดต่อกันถึง 3 วัน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 61.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 64.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (2 มี.ค.) จากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์นี้
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 105.53 เยน จากระดับ 106.23 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9368 ฟรังก์ จากระดับ 0.9420 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2331 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2254 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3791 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3770 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7754 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7760 ดอลลาร์สหรัฐ