สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ก.พ. 61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า สหรัฐอาจยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,874.76 จุด พุ่งขึ้น 336.70 จุด หรือ +1.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,720.94 จุด เพิ่มขึ้น 29.69 จุด หรือ +1.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,330.70 จุด เพิ่มขึ้น 72.84 จุด หรือ +1.00%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร รวมทั้งรายงานที่ว่า พรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายกลางของเยอรมนี ได้ตกลงที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งนำโดยนางอังเกลา แมร์เคิล อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลี หลังจากผลการนับคะแนนเลือกตั้งในเบื้องต้นพบว่า ยังไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1% ปิดที่ 370.87 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,115.98 จุด เพิ่มขึ้น 46.08 จุด หรือ +0.65% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,167.23 จุด เพิ่มขึ้น 30.65 จุด หรือ +0.60% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,090.87 จุด เพิ่มขึ้น 177.16 จุด หรือ +1.49%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ.ของสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มค้าปลีก ซึ่งรวมถึงหุ้นเทสโก้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,115.98 จุด เพิ่มขึ้น 46.08 จุด หรือ +0.65%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) ขานรับรายงานคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ซึ่งระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจนถึงปี 2566 นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวการปิดแหล่งน้ำมัน เอล ฟีล ในประเทศลิเบีย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 62.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.3% 1,319.90  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 5.4 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 16.412 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 962.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9.15 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 977.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า สหรัฐอาจยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.22 เยน จากระดับ 105.53 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9404 ฟรังก์ จากระดับ 0.9368 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.2328 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2331 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3833 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3791 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7762 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7754 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button