ศาลฯยกเลิกคำสั่งงดขายทอดตลาดที่ดิน 4.3 พันไร่ เปิดช่อง AQ ขายพื้นที่หลักประกันใช้หนี้ KTB

บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ระบุว่า ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองที่บริษัทต้องร่วมรับผิดชอบค่าความเสียหายนั้น คดีถึงที่สุด โดยโจทก์คือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้ยึดทรัพย์ที่เป็นหลักประกันและประกาศขายทรัพย์ทอดตลาด ครั้งที่ 1 วันที่ 27 ธันวาคม 2560 ครั้งที่ 2 วันที่ 17 มกราคม 2561 ครั้งที่ 3 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 และครั้งที่ 4 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 นั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 นายวิโรจน์ นวลแข ในฐานะผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการขายทอดตลาดที่ดินทั้ง 215 แปลง เนื่องด้วยการประกาศขายที่ดินไม่พร้อมกัน ทำให้เกิดการกำหนดราคาไม่เหมาะสม และวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ส่งหมายให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 5 และ 8 มีนาคม 2561

ทั้งนี้ ล่าสุด วันที่ 5 มีนาคม 2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ยกเลิกคำสั่งที่ให้งดการบังคับคดีตามรายงานกระบวนการพิจารณาฉบับลงวันที่ 25 ธันวาคม 2560 และยกเลิกวันนัดวันที่ 8 มีนาคม 2561

โดยก่อนหน้านี้ว่าบริษัทได้งดการขายทอดตลาดที่ดินหลักประกันจำนวน 4,300 ไร่ จากเดิมที่กำหนดนัดขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 เนื่องจากนายวิโรจน์ นวลแข ได้ยื่นคำร้องของดการขายทอดตลาดต่อศาลฎีกาฯ โดยศาลฯมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ในระหว่างที่ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

 

อนึ่งก่อนหน้านี้ กรมบังคับคดี เตรียมประกาศ ประมูลขายทอดตลาดที่ดินของบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ หรือชื่อเดิม บริษัท กฤษดามหานคร จำนวน 4,300 ไร่ ใน จ.สมุทรปราการ ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ  ซึ่งกำหนดเปิดประมูลขายทอดตลาดในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นการชำระหนี้คืนให้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ในฐานเจ้าหนี้ตามคำสั่งของศาล

อย่างไรก็ตาม เจ้าพนักงานบังคับคดีได้รับแจ้งคำสั่งงดการบังคับคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ศาลฎีกา) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ซึ่งการงดการบังคับคดีดังกล่าวจะมีผลไปจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ดังนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้ทำการงดการขายทอดตลาดที่ดินหลักประกันจำนวน 4,300 ไร่ ดังกล่าวตามคำสั่งของศาลฎีกา

โดยศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้สำเนาคำร้องดังกล่าวให้เจ้าพนักงานบังคับคดี และคู่ความที่เกี่ยวข้องทราบ โดยให้คู่ความที่เกี่ยวข้องทำการคัดค้านคำร้องดังกล่าวภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องและให้เลื่อนคดีไปนัดไต่สวนคำร้องดังกล่าวในวันที่ 5 และ 8 มีนาคม 2561 และมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ในระหว่างที่ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น