DDD เด้งกลับเกือบ 3% หลังได้รับ “อย.”จีน พร้อมบุกตลาดแดนมังกรเต็มกำลัง
DDD บวกกลับเกือบ 3% หลังได้รับ "อย."จีน พร้อมบุกตลาดแดนมังกรเต็มกำลัง มั่นใจหนุนรายได้ Q1/61 โตกระฉูด ล่าสุด ณ เวลา 16.07 น. อยู่ที่ 92.50 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 2.78% สูงสุดที่ 93 บาท ต่ำสุดที่ 84.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 137.35 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ล่าสุด ณ เวลา 16.07 น. อยู่ที่ 92.50 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 2.78% สูงสุดที่ 93 บาท ต่ำสุดที่ 84.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 137.35 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น DDD ปรับตัวขึ้น หลังบริษัทได้รับ China Food and Drug Administration (CFDA) หรือ เครื่องหมาย อย. ในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเพิ่มช่องทางขายในต่างประเทศ ส่งผลให้คาดว่ารายได้จากการขายสินค้าในประเทศจีนในไตรมาส 1/61 สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา
โดย DDD ระบุว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขายสินค้าในประเทศจีนภายใต้การขายสินค้าแบบ Cross-border Ecommerce ซึ่งเป็นการขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ และบริษัทฯ สามารถใช้เครื่องหมาย อย. ที่ได้รับในประเทศไทย เพื่อขายสินค้าในช่องทางดังกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับ CFDA เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างยอดขายได้ดีในกลุ่มลูกค้าประเทศจีนมีความพร้อมที่จะขยายไปยังช่องทางการขายอื่นเพิ่มเติม ซึ่งได้แก่ Mainstream Ecommerce ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขายส่ง (Wholesale) มากยิ่งขึ้น รวมถึงช่องทางการจำหน่ายแบบออฟไลน์ที่มีศักยภาพและมีมูลค่าตลาดสูง เพื่อรองรับช่องทางการขายที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของสินค้า เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ CFDA คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/61 รวมถึงได้มีการปรับโครงสร้างภายในบริษัทฯ ภายหลังจากได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทให้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อสนับสนุนการขายในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะจัดตั้งแล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.61 ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ต่อการขายสินค้าในต่างประเทศของบริษัทฯ
ทั้งนี้จาก 2 ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ทำให้ทางบริษัทฯ คาดว่ารายได้จากการขายสินค้าในประเทศจีนใน ไตรมาสที่ 1/61 จะเติบโตขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา และในไตรมาส 2 บริษัทฯ จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากโครงสร้างบริษัทใหม่ ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
อนึ่ง ยอดขายต่างประเทศสำหรับปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเท่ากับ 513 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 59 ซึ่งเท่ากับ 146 ล้านบาท โดยเพิ่มสูงขึ้น 3.5 เท่า ซึ่งยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ยอดขายในไตรมาส 4/60 จะลดลง แต่เกิดจากการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของสินค้าเพื่อรองรับช่องทางการขายใหม่และเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ China Food and Drug Administration (CFDA) หรือ เครื่องหมาย อย. ในประเทศจีน