AMATA พุ่งเกือบ5% หลังร่วง5 วันติด โบรกฯแนะซื้อ ชูเป้า30บ. ชี้รับผลดี EEC หนุนยอดขายนิคมฯ

AMATA พุ่งเกือบ5% หลังร่วง5 วันติด โบรกฯแนะซื้อ ชูเป้า30บ. ชี้รับผลดี EEC หนุนยอดขายนิคมฯ โดย ณ เวลา 15.42 น. ราคาอยู่ที่ 22.20 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 4.72% สูงสุดที่ระดับ 22.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 940.27 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ณ เวลา 15.42 น. ราคาอยู่ที่ 22.20 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 4.72% สูงสุดที่ระดับ 22.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 940.27 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงหลังเป็นขาลงนาน 5 วันติด นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 25.25 บาท เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 61

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 มี.ค.) แนะนำ “ซื้อ” AMATA ราคาเป้าหมาย 30 บาท/หุ้น โดยกำไรสุทธิปี 60 เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ดีเป็น 18% แรงเกื้อหนุนมาจากกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจไฟฟ้า

โดยมีมุมมองที่เป็นบวกกับนโยบายระเบียงเศรษฐกิจของภาครัฐ (EEC) คาดว่าจะส่งผลดีกับยอดขายนิคมฯของ AMATA ให้เพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต โดยเฉพาะการที่บริษัทมีที่ดินในเขต EEC มากถึง 13,634 ไร่ สูงสุดในอุตสาหกรรม และราคาที่ดินก็มีการปรับตัวดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากโครงการ EEC จะมีการก่อสร้างและพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ตามมาอีกมาก

อีกทั้งยังคงได้รับผลดีจากธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทร่วมที่ช่วยเพิ่มกำไรได้เป็นอย่างดี จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มากขึ้นจากปัจจุบันที่ 168 MW จะเพิ่มขึ้นถึง 56% เป็น 262 MW เมื่อมาถึงปลายปี 61 และช่วยลดความผันผวนของกำไร สอดรับกับลักษณะธุรกิจที่มีความมั่นคง และธุรกิจนิคมฯที่เวียดนามที่มีการเติบโตสูง

นอกจากนี้ มีแผนเพิ่มเติมว่านิคมที่ชลบุรีตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นไป บางส่วนจะมาทำธุรกิจให้เช่าแทนในระยะเวลา 30-90 ปี เพื่อป้องกันว่า หากขายขาดจะหมดไป ตามการจัดหาซื้อผืนที่ดินใหม่ที่ยากขึ้น แต่หากเป็นเช่า สินทรัพย์ก็ยังอยู่กับบริษัท ส่วนปัจจัยลบคือ รายได้ค่าเช่าจะต่ำกว่าการขายขาด เนื่องจากรายได้ค่าเช่าจะทยอยเข้ามา แต่ปัจจุบันยังไม่มีรายละเอียดถึงเรื่องนี้มากนัก

อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาพื้นฐาน 30.00 บาท ซึ่งประเมินด้วยส่วนลด 20% จาก RNAV ของบริษัท ซึ่งเทียบเท่ากับ P/E ปี 61 ที่ 19.4 เท่า หรือคิดเป็น PEG ที่ 1.0 เท่า

 

Back to top button