ได้เวลาสอย GULF หลังร่วง 9% โบรกฯเชียร์ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ชี้กำไรยังแกร่ง!
ได้เวลาสอย GULF หลังร่วง 9% โบรกฯเชียร์ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” รับกำไรยังแกร่ง! ล่าสุด ณ เวลา 10.50 น. อยู่ที่ 65.25 บาท ลบ 6.75 บาท หรือ 9.38% สูงสุดที่ 71.75บาท ต่ำสุดที่ 64.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ล่าสุด ณ เวลา 10.50 น. อยู่ที่ 65.25 บาท ลบ 6.75 บาท หรือ 9.38% สูงสุดที่ 71.75บาท ต่ำสุดที่ 64.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท
โดยราคาหุ้น GULF ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 65 บาท เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2561
ด้าน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ “WEAKBUY” GULF ราคาเป้าหมาย 56.40 บาท/หุ้น โดยกำไรไตรมาส 4/60 ดีตามคาดบริษัทรายงานกำไรสุทธิ 982 ล้านบาท ในไตรมาส 4/60 พลิกจากไตรมาส 4/59 ที่ขาดทุนลดลง 140 ล้านบาท และ เพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสก่อน และหากไม่รวมกำไร FX 289 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานปกติ 693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 831% จากปีก่อน, เพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ กำไรที่เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักจาก 1) รับรู้การทยอยเปิดผลิตของโรงไฟฟ้าใหม่ SPP 4 แห่งขอ งบริษัทย่อย GMP ได้แก่ GVTP (เริ่มผลิต 2Q60), GTS1 และ GTS2 (3Q60), GTS3 (4Q60) 2) อัตรากำไร (GPM) เพิ่มเป็น 27.4% (4Q59: 5.1%, 3Q60: 23.1%) จากผลบวกของการปรับขึ้นค่า Ft จึงทำให้ปี 60 มีกำไรปกติอยู่ที่ 2,457 ล้านบาท (ไม่รวมกำไร FX 995 ลบ.) สำหรับกำไรสุทธิ 3,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 727% จากปีก่อน
โดยบริษัทประกาศจ่ายปี 60 ที่ 0.40 บ./หุ้น หรือให้ Dividend Yield ราว 0.8% ต่อปี กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 30 เม.ย. และจ่ายปันผลในวันที่ 14 พ.ค.61
ทั้งนี้ คงประมาณการปี 61-62: ผลประกอบการปี 60 แม้สูงกว่าที่คาด (1.53 พันลบ.) แต่เรายังคงใช้ประมาณการกำไรเดิมที่ระมัดระวัง ซึ่งคาดว่าปี 61 มีกำไร 2,582 ลบ.(+5%YoY จากกำไรปกติ 2,457 ลบ.ในปี 60) และปี 62 เพิ่มเป็น 3,822 ลบ. (+48%YoY) โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) การผลิตเต็มปีของโรงไฟฟ้าใหม่ SPP ในบริษัทย่อย GMP ที่ทยอยเปิดผลิตในปี 60-61 กำลังผลิต 570.6 MW และกำลังผลิตใหม่ที่เพิ่มอีก 340.7 MW ในปี 62; 2) กำไรจากธุรกิจ Solar rooftop (0.45 MW) ชีวมวล (25 MW) 3) รับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของ GJP นอกจากนี้ ปี 64-67F กำลังผลิตและกำไรของบริษัทจะเติบโตได้อีกตามกำลังผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP 2 แห่ง ในบริษัทย่อย IPD ที่เพิ่มขึ้น 3,710 MW (ตามสัดส่วนที่ถืออยู่ 70% และมีสิทธิได้รับเงินปันผลในฐานะผู้ถือหุ้นจาก IPD 75%)
โดยแนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว” คาดกำไรปี 61-62 เติบโตดีต่อเนื่อง แต่ได้สะท้อนไปในราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรงแล้ว ทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันสูงเกินกว่าราคาเป้าหมาย ดังนั้น แนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯให้ราคาเป้าหมาย 56.40 บ./หุ้น ด้วยวิธี DCF โดยใช้ WACC=4.5%-5.7% สำหรับโรงไฟฟ้าหลัก (IPP&SPP) กำลังผลิตรวม 6,303.8 MW จะได้มูลค่าเหมาะสมของโรงไฟฟ้า 56.25 บ. และอีก 0.14 บ. จากธุรกิจ Solar rooftop & Biomass (25.45 MW) รวมเป็น 56.39 บ. คิดจากกำลังผลิตรวมทั้งสิ้น 6,329.2 MW
ปัจจัยเสี่ยง
ความล่าช้าของโครงการลงทุน เหตุการณ์ที่ทำให้โครงการก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างพัฒนาไม่เป็นไปตามคาด การหยุดซ่อมนอกแผน อาจเกิดจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆ ข้อพิพาทในคดีโรงไฟฟ้า IPP ของ IPD อาจส่งผลลบอย่างมากต่อผลประกอบการและฐานะการเงินของบริษัท การรับซื้อไฟฟ้าและการจัดหาเชื้อเพลิง พึ่งพาผู้ซื้อหลักน้อยรายคือ EGAT ส่วน PTT จัดหาก๊าซเพียงรายเดียว
ขณะที่ บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” GULF ราคาเป้าหมาย 80 บาท/หุ้น หลังจากประกาศกำไรสำหรับไตรมาส 4/60 ที่ 971 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 140 ล้านบาทในไตรมาส 4/59 และเติบโต 41% จากไตรมาสก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษจำนวน 289 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 682 ล้านบาท ทะยานขึ้น 819% จากปีก่อนและ 36% จากไตรมาสก่อน โดยผลประกอบการหลักออกมาตามที่คาด แต่สูงกว่าที่ตลาดประเมิน 8%
เบื่องต้นประเมินกำไรหลักไตรมาส 1/61 ของ GULF ที่ 728 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน แต่เติบโต 10% จากไตรมาสก่อนทั้งนี้ คาดผลจากการดำเนินงานในโรงไฟฟาแห่งใหม่ที่ดีขึ้นจะกลบกำไรจากบริษัทร่วมที่คาดอ่อนตัวลงจากปีก่อนได้ ขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนเนื่องจากจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาในไตรมาส 1/61
ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรหลักปี 2561 เท่าเดิมที่ 3,140 ล้านบาท ภาพผลการดำเนินงานของ GULF ในไตรมาส 4/60 ออกมาอย่างน่าประทับใจและเป็นเครื่องยืนยันแนวโน้มกำไรเติบโตในอนาคต ทั้งนี้จากแนวโน้มกำลังการผลิตและกำไรที่เติบโตอย่างโดดเด่นของบริษัททำให้เราชอบ GULF มากที่สุดในกลุ่ม นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับการดำเนินงานปี 2560 ที่ 0.40 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 0.5% (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พ.ค.; กำหนดจ่ายวันที่ 14 พ.ค.)